แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

การเนรมิตสร้างมนุษย์


9.    ทุกสิ่งที่มีอยู่ล้วนเกิดขึ้นจากพระวาจา เป็นดังสิ่งสร้างของพระวาจา และทุกสิ่งได้รับเรียกให้มารับใช้พระวาจา การเนรมิตสร้างเป็นภูมิหลังที่เรื่องราวความรักทั้งหมดระหว่างพระเจ้ากับสิ่งสร้างพัฒนาขึ้น ดังนั้นความรอดพ้นของมนุษย์จึงเป็นแรงผลักดันทุกสิ่ง เมื่อเราพิจารณาดูจักรวาลในมุมมองประวัติศาสตร์ความรอดพ้น เราก็ต้องยอมรับรู้ว่ามนุษย์มีบทบาทและตำแหน่งพิเศษในบรรดาสิ่งสร้าง “พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ตามภาพลักษณ์ของพระองค์ พระองค์ทรงสร้างเขาตามภาพลักษณ์ของพระเจ้า พระองค์ทรงสร้างให้เป็นชายและหญิง” (ปฐก 1:27) ข้อความนี้ทำให้เราต้องยอมรับว่าศักดิ์ศรีของร่างกาย เหตุผล อิสรภาพ และมโนธรรมที่มนุษย์ได้รับนั้นเป็นของประทานประเสริฐสุดจากพระเจ้า ในเรื่องนี้เรายังพบสิ่งที่นักปรัชญาเรียกว่า “กฎธรรมชาติ” อีกด้วย  อันที่จริง “มนุษย์ทุกคนที่รู้สำนึกและรับผิดชอบย่อมรู้สึกว่าในส่วนลึกแล้วตนได้รับเรียกให้ทำดี”  และหลีกหนีความชั่วด้วย ตามคำสอนของนักบุญโทมัสอาไควนัส หลักการนี้เป็นพื้นฐานของบัญญัติอื่นๆทุกข้อของกฎธรรมชาติ  พระวาจาที่เราได้ฟังก่อนอื่นหมดชักนำเราให้คิดว่าจำเป็นต้องดำเนินชีวิตตามบัญญัติข้อนี้ “ที่มีเขียนไว้ในใจของเรา” (เทียบ รม 2:15; 7:23)  พระเยซูคริสตเจ้ายังทรงนำกฎใหม่มาให้มนุษย์ คือกฎของพระวรสาร ซึ่งยกกฎธรรมชาติขึ้นมาและทำให้สมบูรณ์ขึ้น โดยทำให้เราเป็นอิสระจากกฎของบาปซึ่งเป็นเหตุให้เราทำบาป ตามที่นักบุญเปาโลสอนว่า “ความปรารถนา(จะทำดี)นั้นข้าพเจ้ามีอยู่แล้ว แต่ขาดพลังที่จะทำ” (รม 7:18) อาศัยความช่วยเหลือจากพระหรรษทาน กฎพระวรสารนี้ยังทำให้มนุษย์มีส่วนในชีวิตพระเจ้าและเอาชนะความเห็นแก่ตัวที่มีมากเกินไปได้ด้วย