แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

มนุษย์ตอบสนองพระดำรัสของพระเจ้า

มนุษย์ได้รับเรียกให้มารับพันธสัญญากับพระเจ้า


22.    หลังจากกล่าวว่าพระวาจามีอยู่หลายรูปแบบแล้ว เราจึงเข้าใจว่าพระเจ้าตรัสและเสด็จมาพบให้เราเสวนากับพระองค์ได้หลายทาง บรรดาพระสังฆราชแห่งสมัชชาจึงกล่าวว่า “ถ้าจะมีการเสวนาถึงเรื่องการเปิดเผย เราต้องให้ความสำคัญที่สุดแก่พระวาจาที่พระเจ้าตรัสกับมนุษย์”  พระธรรมล้ำลึกเรื่องพันธสัญญาแสดงว่า พระเจ้าซึ่งทรงใช้พระวาจาเรียกมนุษย์ทรงมีความสัมพันธ์กับมนุษย์ซึ่งตอบสนอง แต่ก็ต้องเข้าใจว่านี่ไม่ใช่เรื่องการพบกันของคู่สัญญาเท่ากันสองฝ่าย สิ่งที่เราเรียกว่าพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่นั้นไม่ใช่ข้อตกลงระหว่างคู่สัญญาเท่าเทียมกันสองฝ่าย แต่ทว่าเป็นของประทานล้วนๆจากพระเจ้า พระเจ้าทรงใช้ของประทานด้วยความรักนี้ก้าวข้ามช่องว่างทั้งปวงและทรงทำให้เราเป็น“คู่สัญญา”กับพระองค์ ทำให้ธรรมล้ำลึกการวิวาห์ด้วยความรักของพระคริสตเจ้ากับพระศาสนจักรเกิดขึ้นได้ จากมุมมองนี้ มนุษย์แต่ละคนจึงเป็นคู่สนทนา ซึ่งพระวจนาตถ์ทรงเรียกและท้าทายให้มาสนทนากับพระองค์ด้วยความรักและตอบสนองอย่างอิสระ เราแต่ละคนจึงมีความสามารถที่จะฟังและตอบพระวาจาของพระเจ้าได้ มนุษย์ได้รับการเนรมิตสร้างมาอาศัยพระวาจา (พระวจนาตถ์) และดำรงชีวิตอยู่โดยพระวาจานี้ มนุษย์ไม่อาจเข้าใจตนเองได้นอกจากจะเปิดตนรับการสนทนานี้ พระวาจาของพระเจ้าเปิดเผยให้เรารู้ว่าเรามีธรรมชาติเป็นบุตรของพระเจ้า และชีวิตของเรามีความสัมพันธ์กับพระองค์ พระองค์ยังประทานพระหรรษทานเชิญชวนเราให้ปรับตนให้เข้ากับพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระบิดา และเปลี่ยนแปลงเป็นพระคริสตเจ้าด้วย