พระเจ้าทรงฟังและตอบคำถามของมนุษย์


23.    เมื่อสนทนากับพระเจ้า เราก็รู้จักตนเองและพบคำตอบสำหรับคำถามที่อยู่ในส่วนลึกของหัวใจ พระวาจาของพระเจ้าไม่ขัดกับมนุษย์ ไม่ปิดกั้นความปรารถนาแท้จริงของเขา แต่กลับส่องสว่าง ทำให้บริสุทธิ์ และทำให้ความปรารถนาเหล่านี้บรรลุผล ยุคสมัยของเรามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องค้นหาให้พบว่า มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่ทรงตอบสนองความกระหายที่มีอยู่ในใจของมนุษย์แต่ละคนได้  แต่อนิจจาที่ในสมัยของเรา โดยเฉพาะในโลกตะวันตก ความคิดหนึ่งกำลังแพร่ขยายไปทั่ว

คือความคิดที่เห็นว่าพระเจ้าไม่เกี่ยวข้องอะไรกับชีวิตและปัญหาต่างๆของมนุษย์ ยิ่งกว่านั้น การประทับอยู่ของพระเจ้ายังอาจคุกคามความเป็นอิสระของมนุษย์ที่ไม่ต้องขึ้นแก่ใคร อันที่จริง แผนการความรอดพ้นโดยส่วนรวมแสดงให้เห็นว่าพระเจ้าตรัสและทรงเข้ามาเกี่ยวข้องในประวัติศาสตร์ก็เพื่อผลประโยชน์และความรอดพ้นของมนุษย์ทุกคน เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งในด้านงานอภิบาล ที่จะต้องแสดงให้เห็นว่าพระวาจาของพระเจ้าอาจเข้ามาเสวนาได้กับมนุษย์ถึงปัญหาที่เขาจำเป็นต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน พระเยซูเจ้าทรงแสดงให้เราเห็นว่าพระองค์คือผู้ที่เสด็จมาเพื่อเราจะได้มีชีวิตอย่างสมบูรณ์ (เทียบ ยน 10:10) เพราะเหตุนี้ เราจึงต้องพยายามอย่างยิ่งเพื่อแสดงว่า พระวาจาของพระเจ้าเป็นการเปิดให้เราเข้าถึงปัญหาที่มี เป็นคำตอบต่อคำถามของเรา เป็นการขยายค่านิยมของเราออกไปและทำให้ความคาดหวังของเราเป็นจริง  งานอภิบาลของพระศาสนจักรน่าจะชี้ให้เห็นชัดๆว่า พระเจ้าทรงฟังความต้องการและการร้องขอของเรา  นักบุญโบนาเวนตูรากล่าวไว้ในงานเขียนของท่านที่ชื่อ Breviloquium ว่า “สถานสภาพหรือผลของพระคัมภีร์ไม่ใช่สถานสภาพหรือผลทั่วๆไป แต่เป็นความสุขนิรันดรอย่างเต็มเปี่ยม พระคัมภีร์บรรจุพระวาจาแห่งชีวิตนิรันดร ที่เขียนไว้ไม่เพียงเพื่อให้เราเชื่อ แต่ยังเพื่อให้เรามีชีวิตนิรันดร ในชีวิตนั้น เราจะแลเห็นและรัก และความปรารถนาทั้งมวลของเราจะสำเร็จสมบูรณ์”