พระวาจาของพระเจ้าและหน้าที่เพื่อความยุติธรรมในสังคม


100.    พระวาจาของพระเจ้าผลักดันมนุษย์ให้สร้างความสัมพันธ์ที่ตั้งอยู่บนความดีและยุติธรรม ทั้งยังยืนยันถึงคุณค่าประเสริฐของความพยายามทุกอย่างของมนุษย์ ที่จะทำให้โลกนี้มีความยุติธรรมและน่าอยู่ยิ่งขึ้น  พระวาจาของพระเจ้ากล่าวอย่างชัดเจนตำหนิความอยุติธรรมและส่งเสริมความร่วมมือร่วมใจกันและความเสมอภาค  อาศัยแสงสว่างจากพระวาจาขององค์พระผู้เป็นเจ้า ขอให้เรารู้จัก “เครื่องหมายของกาลเวลา” ที่อยู่ในประวัติศาสตร์ เราจะได้ไม่ละทิ้งหน้าที่ที่เราต้องมีต่อผู้มีความทุกข์และเป็นเหยื่อของความเห็นแก่ตัว สมัชชากล่าวเตือนว่าหน้าที่สร้างความยุติธรรมและเปลี่ยนแปลงโลกเป็นรากฐานสำคัญของการประกาศพระวรสาร ดังนั้น ดังที่สมเด็จพระสันตะปาปาเปาโลที่ 6 ได้ตรัสไว้ “พลังของพระวรสารจึงต้องสัมผัสและพลิกผันมาตรการตัดสิน ค่านิยมที่สำคัญมากกว่า รวมทั้งความสนใจและเหตุผลความคิด, แรงบันดาลใจและแบบอย่างชีวิตของมวลมนุษย์ ที่ขัดแย้งกับพระวาจาของพระเจ้าและกับแผนการความรอดพ้น” 
    เพราะเหตุนี้ บรรดาพระสังฆราชแห่งสมัชชาจึงคิดถึงเป็นพิเศษถึงผู้ทำงานด้านการเมืองและสังคม การประกาศพระวรสารและเผยแผ่พระวาจาของพระเจ้าต้องชวนให้เขาปฏิบัติงานในโลกเพื่อแสวงหาผลประโยชน์แท้จริงของทุกคน โดยรักษาและส่งเสริมศักดิ์ศรีของแต่ละคนไว้ด้วย ใช่แล้ว พระศาสนจักรไม่มีหน้าที่โดยตรงที่จะสร้างสังคมที่มีความยุติธรรมมากขึ้น แต่พระศาสนจักรก็ยังมีหน้าที่ตัดสินเรื่องจริยธรรมและศีลธรรมที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของปัจเจกชนและประชาชนส่วนรวม การปฏิบัติงานด้านสังคมและการเมืองโดยตรงเป็นบทบาทเฉพาะของบรรดาฆราวาสผู้มีความเชื่อที่ได้รับการอบรมสั่งสอนจากพระวรสาร ดังนั้น สมัชชาจึงขอร้องให้คนเหล่านี้ได้รับการศึกษาอบรมอย่างเหมาะสม ตามหลักคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร

101.    ข้าพเจ้ายังปรารถนาเชิญชวนทุกคน ให้คิดถึงความสำคัญของการปกป้องและส่งเสริมสิทธิของมนุษย์แต่ละคน สิทธินี้อิงอยู่กับกฎธรรมชาติที่จารึกอยู่ในใจของมนุษย์ จึงนับว่าเป็นกฎ “สากล ไม่อาจล่วงละเมิดหรือโอนให้ผู้อื่นได้”  พระศาสนจักรปรารถนาอย่างยิ่งให้การรับรองสิทธิเช่นนี้ช่วยให้ศักดิ์ศรีของมนุษย์ได้รับการยอมรับอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นสากลยิ่งขึ้น  ให้เป็นเสมือนเอกลักษณ์ที่พระผู้สร้างทรงสลักไว้ในสิ่งที่ทรงเนรมิตสร้าง ซึ่งพระเยซูคริสตเจ้าทรงรับและทรงกอบกู้โดยการรับธรรมชาติมนุษย์ การสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์ เพราะฉะนั้น พระวาจาของพระเจ้าที่ได้รับการเผยแผ่จึงต้องยืนยันและเคารพสิทธิเหล่านี้อย่างมั่นคงอยู่เสมอ