แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

ชาวสะมาเรียใจดี

พระคัมภีร์    ลูกา 10:25-37

คำแนะนำสำหรับผู้นำ
ผู้แสดง   
1.    พระเยซูเจ้า
2.    ฝูงชน
3.    นักกฎหมาย
4.    ชาย
5.    ชาวสะมาเรีย
6.    โจร 1-2
7.    สมณะ
8.    ชาวเลวี
9.    เจ้าของโรงแรม

อุปกรณ์ในการแสดง
1.    กระเป๋าสตางค์
2.    เหรียญเงิน 2 อัน
3.    ขวดเล็กๆ 2 ขวด ใส่น้ำมันและเหล้าองุ่น
4.    ผ้าขาวสำหรับพันแผล

ใจความสำคัญ
    ความรักต่อเพื่อนมนุษย์ ความมีอคติ

คำอธิบาย
    นี่เป็นเรื่องราวชั้นเยี่ยมเกี่ยวกับความเมตตาของมนุษย์ที่พระเยซูเจ้าทรงใช้อธิบายถึงเรื่องกฎหมาย นักกฎหมายจำแนกได้อย่างเหมาะสมถึงหนทางที่จะนำไปสู่ชีวิตนิรันดร ซึ่งเป็นพระบัญญัติที่ยิ่งใหญ่สองประการ คือ รักพระเจ้า และรักเพื่อนมนุษย์ พระเยซูเจ้าทรงอธิบายโดยใช้ตัวอย่างชัดเจนถึงความรัก ด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลหนึ่งซึ่งมีความรักต่อคนแปลกหน้ามากกว่าข้อห้ามทางศาสนา มากกว่าความมีอคติ และมากกว่าความคิดถึงแต่ตนเอง สมณะและชาวเลวีไม่ได้ช่วยผู้เคราะห์ร้าย อาจเป็นเพราะการพบปะกับเขาจะทำให้พวกเขาเป็นมลทิน  และทำให้พวกเขาไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในพระวิหารได้ เขาอาจจะคิดว่าชายผู้นี้เป็นเป้าหลอกของพวกโจรที่คอยปล้นอยู่แถวเส้นทางนั้น ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม สมณะและชาวเลวีหลีกเลี่ยงที่จะปฏิบัติตามกฎหมายของพระเจ้า
    ในทางกลับกัน  ชาวสะมาเรียถึงแม้จะถูกถือว่าเป็นผู้มีมลทิน ผู้ทรยศและคนนอกศาสนา ได้ให้ความช่วยเหลือชายผู้อยู่ในความจำเป็น ยิ่งกว่านั้น เขากระทำด้วยความใจกว้าง ยอมเสียสละเวลา ทรัพย์สมบัติ เงินทอง และการหลับนอนของเขาเพื่อให้ความช่วยเหลือ พร้อมกับสอนว่าความรักนั้นอยู่เหนือความถูกต้องตามกฎหมาย อุปมาของพระเยซูเจ้าสอนว่า ความรักต้องเป็นการปฏิบัติ ต้องแสดงออกในยามจำเป็น ยิ่งกว่านั้น เรื่องชาวสะมาเรียใจดีให้ความชัดเจนว่า เราต้องรักเพื่อนมนุษย์ทุกคน รวมทั้งศัตรูของเราด้วย

ลักษณะเด่นเพื่ออภิปราย
    การใช้คำว่า “ชาวสะมาเรียใจดี” ในปัจจุบัน
    เปรียบชาวสะมาเรียกับตัวเรา
    เหตุผลที่สมณะและชาวเลวีไม่ช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้าย
    ความคิด และความรู้สึกของชายผู้เคราะห์ร้ายเมื่อทราบว่าชาวสะมาเรียเป็นผู้ช่วยเหลือเขา
    เกิดอะไรต่อจากนั้น
    ข้อแก้ตัวที่เราให้เพื่อไม่ต้องการทำความเมตตากรุณา
    การเสียสละที่ความรักเรียกร้อง
-------------------------------------------------
(พระเยซูเจ้าและฝูงชนอยู่ด้านหนึ่ง นักกฎหมายเข้ามาและเดินไปหาพระเยซูเจ้า)
นักกฎหมาย    พระอาจารย์ ข้าพเจ้าจะต้องทำสิ่งใดเพื่อจะได้ชีวิตนิรันดร
พระเยซูเจ้า    ในธรรมบัญญัติมีเขียนไว้อย่างไร ท่านอ่านว่าอย่างไร
นักกฎหมาย    ท่านจะต้องรักองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านสุดจิตใจ สุดวิญญาณ สุดกำลังและสุดสติปัญญาของท่าน ท่านจะต้องรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง
พระเยซูเจ้า    ท่านตอบถูกแล้ว จงทำเช่นนี้แล้วจะได้ชีวิต
นักกฎหมาย    ใครคือเพื่อนมนุษย์ของข้าพเจ้า
พระเยซูเจ้า    ชายคนหนึ่งกำลังเดินทางจากกรุงเยรูซาเล็มไปยังเมืองเยริโค เขาถูกโจรปล้น พวกโจรปล้นทุกสิ่ง ทุบตีเขา แล้วก็จากไป ทิ้งเขาไว้อาการสาหัสเกือบสิ้นชีวิต
    (ชายเดินอยู่คนเดียว โจรทุบตีเขา เอาเงินของเขาไป และทิ้งให้เขานอนอยู่บนพื้น)
พระเยซูเจ้า    สมณะผู้หนึ่งเดินผ่านมา
    (สมณะเข้ามา มองชายผู้นั้น แล้วเดินผ่านเลยไปอีกฟากหนึ่ง)
พระเยซูเจ้า    ชาวเลวีคนหนึ่งผ่านมาทางนั้น
    (ชาวเลวีเข้ามา มองชายผู้นั้น และเดินผ่านเลยไปอีกฟากหนึ่ง)
พระเยซูเจ้า    แต่ชาวสะมาเรียผู้หนึ่ง เดินทางผ่านมาใกล้ๆ ชายผู้นั้น
    (ชาวสะมาเรียเข้ามา และหยุดอยู่ที่ชายนั้น)
ชาวสะมาเรีย    เพื่อนผู้น่าสงสาร เอ มองแล้วเหมือนศัตรูของเราจัง ชาวยิวนี่ น้ำมันและเหล้าองุ่นนี่คงช่วยเขาได้ (เทน้ำมันและเหล้าองุ่นลงบนชายผู้นั้น เอาผ้าขาวออกมาพันรอบศีรษะของชาย)
พระเยซูเจ้า    ชาวสะมาเรีย นำผู้เคราะห์ร้ายนั้นขึ้นหลังสัตว์ของตน พาเขาไปยังโรงแรมแห่งหนึ่ง และช่วยดูแลเขาตลอดทั้งคืน
    (ชาวสะมาเรียช่วยชายยืนขึ้นและออกไป เจ้าของโรงแรมเข้ามา)
พระเยซูเจ้า    วันรุ่งขึ้น ชาวสะมาเรียไปหาเจ้าของโรงแรม
    (ชาวสะมาเรียเดินเข้ามา)
ชาวสะมาเรีย    (ให้เงินเจ้าของโรงแรม)
    นี่ครับเงินสองเหรียญสำหรับชายที่ผมนำมา ช่วยดูแลเขาด้วย ถ้าท่านจ่ายเกินไปกว่านี้ ผมจะคืนให้เมื่อกลับมา
พระเยซูเจ้า    ท่านคิดว่าในสามคนนี้ใครเป็นเพื่อนมนุษย์ของคนที่ถูกโจรปล้น
นักกฎหมาย    คนที่แสดงความเมตตาต่อเขา
พระเยซูเจ้า    ท่านจงไปและทำเช่นเดียวกันเถิด