แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

ชายตาบอดแต่กำเนิด

พระคัมภีร์    ยน 9:1-41

คำแนะนำสำหรับผู้นำ
ผู้แสดง   
1.    ผู้บรรยาย
2.    พระเยซูเจ้า
3.    แม่
4.    พ่อ
5.    ชาย
6.    คนส่งสาร
7.    ศิษย์ 1-2
8.    ฟาริสี 1-2
9.    เพื่อนบ้าน 1-2-3   

อุปกรณ์ในการแสดง
1.    ชามหรือกะทะสำหรับใส่น้ำ

ใจความสำคัญ
    ความเชื่อ การรักษาเป็นผลมาจากความเชื่อ
ตรงข้ามกับพระเยซูเจ้า ศีลล้างบาป การรักษาในวันสับบาโต
คำอธิบาย
    อัศจรรย์ในเรื่องนี้เป็นร่องรอยของบุคคลซึ่งพบปะและติดตามพระเยซูเจ้า ผู้ทรงเป็นความสว่าง เป็นมิติของสิ่งคล้ายศีลอย่างชัดเจน คนขอทานอยู่ในความมืดตั้งแต่เกิด จนกระทั่งพระเยซูเจ้าทรงรักษาเขาโดยมิต้องขอ การรักษานำมาสู่ “การเจิม” ด้วยโคลน และล้างออกด้วยน้ำในสระสิโลอัม ซึ่งหมายถึง “ส่งออกไป”
    เพราะเป็นวันสับบาโต ฟาริสีบางคนจึงทักท้วงและตั้งคำถามชายผู้นั้น ตลอดกระบวนการทำให้ชายผู้นั้นซึ่งบัดนี้มองเห็นแล้ว มีความเข้าใจในพระเยซูเจ้าเพิ่มมากขึ้น เขาปกป้องผู้ที่รักษาแม้ในขณะที่บิดามารดาของเขาทอดทิ้งเขา การโต้แย้งของเขาแสดงให้เห็นว่าเขามองเห็นได้ชัดเจนกว่าฟาริสีที่มืดบอด เมื่อไม่สามารถพิสูจน์อัศจรรย์ว่าไม่จริง ชาวฟาริสีจึงไล่ชายนั้นออกไป พระเยซูเจ้าทรงตามหาชายที่ได้รับการรักษาและเรียกเขาให้มีความเชื่ออย่างสมบูรณ์
ลักษณะเด่นเพื่ออภิปราย
    ความเชื่อเป็นพระพรที่ให้เปล่า
    ทำไมพระเยซูเจ้าจึงทรงเป็นความสว่างของเรา
    ความหมายของศีลล้างบาป
    ศีลล้างบาปเรียกร้องการอุทิศตนของเรา
    ช่วงเวลาที่เราต้องยืนยันอย่างแข็งขันถึงความเชื่อของเราในองค์พระเยซูเจ้า
    เรารู้จักพระเยซูเจ้าให้มากขึ้นได้อย่างไร
(ชายตาบอดนั่งอยู่กับพื้น พระเยซูเจ้าและศิษย์เดินเข้ามา)
ผู้บรรยาย    วันสับบาโตวันหนึ่ง        ในขณะที่พระเยซูเจ้าทรงพระดำเนินไปพร้อมกับบรรดาศิษย์ พระองค์ทอดพระเนตรเห็นคนตาบอดแต่กำเนิดคนหนึ่ง
ศิษย์ 1    พระอาจารย์ ใครทำบาป คนนี้หรือบิดามารดาของเขา เขาจึงเกิดมาตาบอด
พระเยซูเจ้า    มิใช่ชายคนนี้ หรือบิดามารดาของเขาทำบาป แต่เขาเป็นเช่นนี้ก็เพื่อให้กิจการของพระเจ้าปรากฏในตัวเขา ตราบใดที่ยังเป็นกลางวันอยู่ เราทั้งหลายต้องทำกิจการของผู้ที่ทรงส่งเรามา แต่เมื่อกลางคืนมาถึง ก็ไม่มีใครทำงานได้ ตราบใดที่เรายังอยู่ในโลก เราเป็นแสงสว่างส่องโลก
    (พระเยซูเจ้าช่วยชายตาบอดยืนขึ้น และทำท่าตามที่ผู้บรรยายกล่าว)
ผู้บรรยาย    พระเยซูเจ้าทรงถ่มพระเขฬะลงบนพื้นผสมกับดิน ป้ายตาคนตาบอด
พระเยซูเจ้า    (พูดกับชาย)
    จงไปล้างตาที่สระสิโลอัมเถิด
    (ชายเดินไปอีกด้านหนึ่ง และวักน้ำล้างหน้า)
ชาย        ฉันมองเห็นแล้ว ฉันมองเห็นแล้ว
    (พระเยซูเจ้าและศิษย์ออกไป ชายยังคงเดินไปเรื่อยๆ เพื่อนบ้านเข้ามา)
เพื่อนบ้าน 1    คนนี้เป็นคนที่เคยนั่งขอทานอยู่มิใช่หรือ
เพื่อนบ้าน 2    ใช่แล้ว
เพื่อนบ้าน 3    ไม่ใช่ แต่เป็นคนอื่นที่คล้ายกับเขา
ชาย    ใช่แล้ว เป็นฉันเอง
เพื่อนบ้าน 1    ตาของเจ้าหายบอดได้อย่างไร
ชาย    คนที่ชื่อเยซู ทำโคลนป้ายตาฉัน และบอกฉันว่า “จงไปล้างตาที่สระสิโลอัมเถิด” ฉันจึงไปล้าง พอล้างแล้วก็มองเห็น
เพื่อนบ้าน 2    เขาอยู่ที่ไหนหรือ
ชาย    ฉันไม่รู้
    (ฟาริสีและคนส่งสารเข้ามา เพื่อนบ้านนำชายผู้นั้นไปหาพวกเขา)
เพื่อนบ้าน 2    ชายคนนี้เคยตาบอด แต่พระเยซูเจ้าทำให้เขามองเห็น
ฟาริสี 1    เจ้ามองเห็นได้อย่างไร
ชาย    เขาเอาโคลนมาป้ายตาของฉัน ฉันไปล้างตาแล้วก็มองเห็น
ฟาริสี 2    คนนั้นไม่ได้มาจากพระเจ้า เขาไม่ถือวันสับบาโต
ฟาริสี 3    ถ้าเขาเป็นคนบาป จะทำเครื่องหมายอัศจรรย์อย่างนี้ได้อย่างไร
ฟาริสี 2    เจ้าเป็นคนที่ตาหายบอด เจ้าคิดอย่างไรเกี่ยวกับคนที่รักษาเจ้า
ชาย    เขาเป็นประกาศก
ฟาริสี 2    (พูดกับฟาริสี 1)
    น่าจะเป็นไปได้ว่าเขาไม่ได้ตาบอดแต่กำเนิด
ฟาริสี 1    ท่านพูดถูก เราไปถามบิดามารดาของเขากันเถิด
ฟาริสี 2    (พูดกับผู้ส่งสาร)
    ไปเรียกบิดามารดาของชายผู้นี้มาที่นี่
    (ผู้ส่งสารออกไปและกลับมาพร้อมกับบิดามารดา ในขณะที่แสดงอาการโต้แย้ง)
ฟาริสี 1    คนนี้เป็นบุตรชายของท่านหรือ
ฟาริสี 2    เขาตาบอดแต่กำเนิดจริงๆ หรือ
ฟาริสี 3    และถ้าใช่ เขากลับมองเห็นได้อย่างไร
บิดา    เรารู้ว่าเขาเป็นลูกชายของเรา
มารดา    และเขาเกิดมาตาบอด
บิดา    เราไม่รู้ว่าบัดนี้เขามองเห็นได้อย่างไร หรือใครรักษาตาของเขา
มารดา    ถามเขาเองเถิด เขาโตพอจะตอบเองได้แล้ว
    (บิดา มารดา และชายออกไป)
ผู้บรรยาย    บิดามารดากลัวชาวฟาริสี เพราะใครยอมรับพระเยซูว่าเป็นพระคริสตเจ้าจะถูกขับออกจากศาลาธรรม
ฟาริสี 1    (พูดกับคนส่งสาร)
    ไปเรียกชายคนนั้นมา
    (คนส่งสารออกไปและกลับมาพร้อมกับชาย)
ฟาริสี 2    จงถวายเกียรติแด่พระเจ้าด้วยการพูดความจริง พวกเรารู้ว่าคนนั้นเป็นคนบาป
ชาย    เขาเป็นคนบาปหรือไม่ผมไม่รู้ ผมรู้อย่างเดียวคือ ผมเคยตาบอด และบัดนี้มองเห็นแล้ว
ฟาริสี 3    เขาทำอะไรกับเจ้า เขารักษาตาของเจ้าอย่างไร
ชาย    ผมบอกท่านแล้ว แต่ท่านก็ไม่ฟัง ทำไมท่านต้องการฟังอีกเล่า ท่านต้องการเป็นศิษย์ของเขาด้วยกระมัง
ฟาริสี 1    เจ้าสิ เป็นศิษย์ของเขา ส่วนเราเป็นศิษย์ของโมเสส พวกเรารู้ว่าพระเจ้าตรัสกับโมเสส แต่เราไม่รู้ว่าชายผู้นี้มาจากไหน
ชาย    แปลกจัง ท่านทั้งหลายไม่รู้ว่าเขามาจากไหน แต่เขาได้รักษาตาของผมให้กลับมองเห็น เราทั้งหลายรู้ว่าพระเจ้าไม่ทรงฟังคนบาป แต่ทรงฟังผู้ที่ยำเกรงพระองค์ และปฏิบัติตามพระประสงค์เท่านั้น แต่ไหนแต่ไรมา ไม่เคยได้ยินเลยว่า มีใครรักษาคนตาบอดแต่กำเนิดให้หายได้ ถ้าเขาไม่ได้มาจากพระเจ้า เขาก็คงจะทำอะไรไม่ได้
ฟาริสี 1-2-3    อะไรนะ
ฟาริสี 1    เจ้าเกิดมาในบาปทั้งตัว แล้วยังกล้ามาสอนพวกเราอีกหรือ
    (ฟาริสียื้อยุดชายและผลักเขาออกไป ชายเดินออกไป
ฟาริสีจับกลุ่มพูดกัน เพื่อนบ้านไปหาพระเยซู)
เพื่อนบ้าน 1    (พูดกับพระเยซูเจ้า)
    พวกฟาริสีขับไล่ชายที่ท่านรักษาให้หายออกจากศาลาธรรม
    (เพื่อนบ้านออกไป พระเยซูเจ้ามองหาชายและมองเห็นเขา)
พระเยซูเจ้า    ท่านเชื่อในบุตรแห่งมนุษย์หรือ
ชาย    บุตรแห่งมนุษย์คือใคร พระเจ้าข้า ข้าพเจ้าจะได้เชื่อในพระองค์
พระเยซูเจ้า    เจ้าได้เห็นแล้ว เป็นผู้ที่กำลังพูดอยู่กับท่านนี่แหละ
ชาย    (โค้งตัวลง)
    ข้าพเจ้าเชื่อ พระเจ้าข้า
    (ฟาริสีเดินไปมา)
พระเยซูเจ้า    เรามาในโลกนี้เพื่อพิพากษา คนที่มองไม่เห็น จะได้มองเห็น ส่วนคนที่มองเห็นจะกลายเป็นคนตาบอด
ฟาริสี 3    ท่านเรียกพวกเราว่าคนตาบอดด้วยใช่ไหม
พระเยซูเจ้า    ถ้าท่านทั้งหลายตาบอด ท่านก็ไม่มีบาป แต่ท่านกล่าวว่า “เรามองเห็น” บาปของท่านจึงยังคงอยู่
    (ฟาริสีออกไปทางหนึ่ง พระเยซูเจ้าและชายออกไปอีกทางหนึ่ง)