แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

บทที่ 6 พระทัยเมตตาอันปราศจากขอบเขตของพระเป็นเจ้าต่อมนุษย์ทุกคน
ในจำนวนธรรมล้ำลึกมากมายของพระเป็นเจ้าที่เราพอจะเข้าใจได้บ้าง และที่เรารู้สึกพิศวงมากที่สุดประการหนึ่งก็คือ พระทัยเมตตาอันปราศจากขอบเขตของพระเจ้า
    ในพันธสัญญาเดิม เราทราบว่าพระเป็นเจ้าได้ทรงแสดงน้ำพระทัยเมตตาต่อประชากรชาวยิวที่หัวดื้อหัวรั้นต่อพระองค์ พันธสัญญาใหม่ก็เปิดฉากด้วยน้ำพระทัยดีของพระเจ้าเช่นกัน กล่าวคือ การบังเกิดของพระเยซูเจ้า เพื่อจะได้ช่วยมนุษยชาติให้รอด ในทุกหน้าของพันธสัญญาใหม่ เราจะเห็นน้ำพระทัยดีของพระเยซูเจ้า ที่แสดงออกด้วยกิจการต่างๆ ของพระองค์ เช่น การรักษาคนป่วย และจากคำสั่งของพระองค์ ระหว่างที่พระองค์ทรงประทับอยู่ท่ามกลางพวกเรา
    อุปมาต่อไปนี้ไม่ใช่เป็นแต่เพียงข้อพิสูจน์ที่ไม่มีใครโต้เถียงได้ถึงพระทัยเมตตาของพระเป็นเจ้าเท่านั้น แต่ยังเป็นและจะเป็นท่อธารแห่งพลังและความไว้วางใจสำหรับคนบาปทุกคนที่กำลังต่อสู้กับบาป และต้องการคืนดีกับพระเป็นเจ้า
    เรื่องแกะที่พลัดหลงและเรื่องเงินเหรียญที่หายไป เรื่องลูกล้างผลาญและลูกที่คิดว่าตนทำดีแล้ว เรื่องลูกหนี้สองคน
    อุปมาทั้งสามเรื่องนี้เป็นคำตอบของพระเยซูเจ้าต่อชาวฟาริสีและพวกธรรมาจารย์ที่เคยคัดค้านพระองค์เสมอ เพราะพระองค์ก็ติดต่อและคลุกคลีกับพวกคนเก็บภาษีและคนบาป เพราะในสายตาของพวกเขา คนทั้งสองจำพวกนี้เป็นเสนียดจัญไรของสังคม คนเก็บภาษีนั้นเป็นชาวยิวที่ได้รับแต่งตั้งจากพวกโรมันให้เก็บภาษีจากเพื่อนร่วมชาติ และในการทำหน้าที่นี้หลายๆ ครั้ง พวกเขากระทำผิดต่อความยุติธรรม เช่น ขูดเลือดขูดเนื้อประชาชนที่ไม่รู้ประสีประสา และที่ร้ายกาจก็คือ พวกเขาได้ช่วยเหลือและให้ความร่วมมือกับชาวโรมัน ซึ่งเป็นศัตรูของพวกเขา ส่วนพวกคนบาปนั้นเป็นชาวยิวที่ไม่ค่อยจะปฏิบัติตามกฎบัญญัติที่สำคัญๆ ของโมเสส และบางคนยังไม่รับรู้และประมาทกฎหรือข้อบังคับเล็กๆ น้อยๆ จำนวนมากมายที่ชาวฟาริสีคิดประดิษฐ์ขึ้นมา และที่ชาวฟาริสีเคยปฏิบัติอยู่เสมอ เพราะพวกเขารักและเคารพต่อกฎหมายมาก พวกคนเก็บภาษีและคนบาปติดใจพระเยซูเจ้า เพราะพระองค์ทรงพระทัยเมตตากรุณา พวกเขายอมรับว่าพวกเขาผิด และพวกเขาก็ต้องการแสวงหาบุคคลที่จะช่วยพวกเขาให้พ้นจากการชั่วช้าต่างๆ นั้น
    เนื่องจากชาวฟาริสีและธรรมาจารย์มีอคติต่อคนเก็บภาษีและคนบาป เพราะเขาคิดเสมอว่าพระเป็นเจ้าทรงไม่สนพระทัยต่อเดนมนุษย์แบบนั้น เขาจึงมีความคิดเห็นขัดแย้งกับพระกรณียกิจของพระเยซูเจ้า พวกเขาคิดว่าสมัยพระเมสสิยาห์นั้นเป็นสมัยสำหรับคนชอบธรรมเท่านั้น พระเยซูเจ้าจะเป็นพระเมสสิยาห์ได้อย่างไร ถ้าหากพระองค์คบค้าสมาคมกับคนบาปและคนเก็บภาษี
    ชาวฟาริสีรู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นพระเยซูเจ้าปล่อยให้หญิงคนบาปชโลมเท้าของพระองค์ด้วยน้ำหอม (ลก 7:36-50) และอีกครั้งหนึ่งเมื่อพระองค์ทานอาหารในบ้านของมัทธิวคนเก็บภาษี (มธ 9:9-13) ทั้งสองโอกาสพระเยซูเจ้าได้ตอบพวกที่วิพากวิจารณ์ว่า ภารกิจของพระองค์ก็เพื่อมาเชิญชวนให้คนบาปกลับใจ ไม่ใช่ผู้ใคร่ธรรม เพราะว่าคนที่มีสุขภาพดี ไม่ต้องการหมอ แต่คนเจ็บป่วยต่างหากต้องการ (มก 2:17) ในอุปมาต่อไปนี้พระองค์ก็ได้ตอบพวกเขาอย่างเดียวกันว่าพระองค์เสด็จมาเพื่อเมตตาจิต
    เราจะศึกษาเกี่ยวกับเรื่องแกะพลัดหลงและเงินเหรียญที่หายไปพร้อมๆ กัน เพราะทั้งสองเรื่องสอนคล้ายๆ กัน