IV. จดหมายของประกาศกเยเรมีย์

สำเนาจดหมายซึ่งประกาศกเยเรมีย์ส่งถึงชาวอิสราเอลที่กษัตริย์ของชาวบาบิโลนจับเป็นเชลยไปที่กรุงบาบิโลน เพื่อแจ้งให้เขารู้พระบัญชาของพระเจ้า
6.    1”กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ของชาวบาบิโลนจะนำท่านทั้งหลายเป็นเชลยไปที่กรุงบาบิโลน เพราะท่านทำบาปผิดต่อพระเจ้า 2เมื่อท่านไปถึงกรุงบาบิโลน ท่านจะต้องอยู่ที่นั่นหลายปี เป็นเวลานานถึงเจ็ดชั่วอายุคน แต่ต่อมาเราจะนำท่านกลับมาจากที่นั่นอย่างสันติ 3บัดนี้ ที่กรุงบาบิโลน ท่านจะเห็นผู้คนแบกaรูปเทพเจ้าที่ทำด้วยเงิน ทอง และไม้ ซึ่งสร้างความหวาดกลัวแก่คนต่างศาสนา 4จงระวังให้ดี อย่าเลียนแบบชนต่างชาติ อย่าให้ความกลัวเทพเจ้าเหล่านี้ครอบงำจิตใจของท่าน 5เมื่อท่านเห็นผู้คนมาห้อมล้อมกราบไหว้รูปเหล่านี้ จงคิดในใจว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์เท่านั้นที่ข้าพเจ้าทั้งหลายจะต้องกราบไหว้นมัสการ” 6ทูตสวรรค์ของพระเจ้าจะอยู่กับท่าน และจะพิทักษ์รักษาชีวิตของท่าน
    7”นายช่างได้ขัดเกลาลิ้นของรูปเทพเจ้าเหล่านี้ ใช้เงินและทองหุ้มไว้ แต่รูปเหล่านี้ก็ไม่ใช่พระเจ้าแท้ เพราะพูดไม่ได้ 8 ประชาชนนำทองคำมาทำเป็นมงกุฎสวมบนเศียรรูปเทพเจ้าเหล่านี้ ประหนึ่งรูปเทพเจ้าเป็นหญิงสาวที่รักสวยรักงาม 9บางครั้งบรรดาสมณะก็ยักยอกเงินและทองจากรูปเหล่านี้ไปใช้จ่ายส่วนตัว และบางครั้งยังนำไปให้หญิงโสเภณีตามสักการสถานb 10เขานำอาภรณ์มาตบแต่งรูปเงิน ทอง และไม้เหล่านี้ประหนึ่งว่าเป็นมนุษย์ แต่รูปเหล่านี้ก็ป้องกันตนจากสนิมและมอดไม่ได้ 11แม้รูปเหล่านี้สวมผ้ากำมะหยี่สีแดงเข้ม ก็ยังต้องการให้มีคนมาเช็ดหน้าให้สะอาดจากฝุ่นในวิหารที่จับอยู่หนา 12แต่ละรูปถือคทาเหมือนเจ้าปกครองแคว้น แต่จะลงโทษประหารชีวิตผู้ที่ทำผิดต่อตนไม่ได้ 13แต่ละรูปถือมีดและขวานในมือขวา แต่ก็ช่วยตนเองให้พ้นจากสงครามหรือจากขโมยไม่ได้ 14ดังนั้น จึงเห็นได้ชัดว่ารูปเหล่านี้ไม่ใช่พระเจ้า ท่านจงอย่ากลัวเขาเลย
    15”ภาชนะดินเผาเมื่อแตกแล้วย่อมไม่มีประโยชน์ฉันใด รูปเทพเจ้าที่ตั้งไว้ในวิหารก็ย่อมไร้ประโยชน์ฉันนั้น 16ตาของรูปเหล่านี้เต็มไปด้วยฝุ่นที่ฟุ้งขึ้นจากเท้าของคนเดินเข้ามา 17เขาย่อมปิดประตูป้องกันไม่ให้ผู้ที่ทำผิดต่อกษัตริย์หนีพ้นจากการถูกประหารชีวิตฉันใด บรรดาสมณะก็ต้องลั่นดาลลงกลอนประตูป้องกันมิให้ขโมยมายกรูปเหล่านี้ไปฉันนั้น 18เขาจุดตะเกียงในวิหารจำนวนมากกว่าที่บ้านของตน แต่รูปเทพเจ้าเหล่านี้ก็มองไม่เห็นอะไร 19รูปเหล่านี้เป็นเหมือนไม้ขื่อของวิหาร เขาพูดกันว่าภายในไม้ขื่อมีมอดกัดกินฉันใด หนอนจากพื้นดินก็มากัดกินทั้งรูปและอาภรณ์โดยที่รูปไม่รับรู้อะไรเลยฉันนั้น 20ใบหน้าของรูปถูกควันในวิหารรมจนดำ 21ค้างคาว นกนางแอ่น รวมทั้งแมวก็มาเกาะตามตัวและบนเศียรของรูป 22เพราะเหตุนี้ ท่านจึงรู้ได้ว่ารูปเหล่านี้ไม่ใช่พระเจ้า ท่านจงอย่ากลัวเขาเลย
    23”รูปเหล่านี้ แม้จะมีทองคำหุ้มให้งดงาม แต่ถ้าไม่มีใครคอยขัดถู ก็ไม่สุกใส แม้เมื่อถูกหลอมก็ยังไม่มีความรู้สึก 24รูปเหล่านี้ถูกซื้อขายกันด้วยราคาเท่าใดก็ได้ เพราะเป็นสิ่งไม่มีชีวิต 25รูปเทพเจ้าเหล่านี้มีเท้าแต่เดินไม่ได้ ผู้คนจึงต้องแบกหามไป แสดงให้ทุกคนเห็นว่าไม่มีศักดิ์ศรี ผู้เลื่อมใสศรัทธาก็ต้องอับอาย เพราะถ้ารูปล้มลง ก็จะลุกขึ้นเองไม่ได้ 26เมื่อตั้งขึ้นแล้วก็เคลื่อนที่เองไม่ได้ ถ้าถูกตั้งเอียงไป ก็จะตั้งตรงขึ้นเองไม่ได้ ของถวายถูกนำมาตั้งไว้ต่อหน้ารูปเหล่านี้เหมือนกับตั้งไว้ต่อหน้าคนตาย 27บรรดาสมณะขายสัตว์ที่ถวายเป็นเครื่องบูชาเพื่อหากำไร แม้แต่ภรรยาของเขาก็นำเนื้อส่วนหนึ่งใส่เกลือเก็บไว้กินเองโดยไม่ยอมแบ่งให้คนยากจนและคนขัดสน สตรีที่มีประจำเดือนหรือสตรีที่เพิ่งคลอดบุตรก็ยังแตะต้องเนื้อที่ถวายเป็นบูชานี้ 28จึงเห็นได้ว่ารูปเหล่านี้ไม่ใช่พระเจ้า ท่านจงอย่ากลัวเขาเลย
    29”จะเรียกรูปเหล่านี้ว่าเป็นพระเจ้าได้อย่างไร ในเมื่อสตรีก็ถวายเครื่องบูชาcแด่รูปเงินทองหรือไม้เหล่านี้ได้ 30ในวิหารของเขา บรรดาสมณะนั่งลงกับพื้น สวมเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง โกนผมและหนวดเครา ไม่มีผ้าโพกศีรษะ เขาตะโกนร้องเสียงดังต่อหน้ารูปเทพเจ้า อย่างที่เขาทำกันในงานเลี้ยงพิธีปลงศพd 32บรรดาสมณะถอดอาภรณ์จากรูปเทพเจ้าเหล่านี้มาสวมให้ภรรยาและบุตร 33ผู้ใดทำดีหรือทำร้ายรูปเหล่านี้ รูปเหล่านี้ก็โต้ตอบไม่ได้ จะแต่งตั้งหรือถอดกษัตริย์ออกจากตำแหน่งก็ไม่ได้ 34จะให้ทรัพย์สมบัติหรือเงินทองแก่ผู้ใดก็ไม่ได้เช่นเดียวกัน ถ้าผู้ใดไม่ทำตามที่บนบานไว้ รูปเหล่านี้ก็ไม่สนใจ 35รูปเหล่านี้จะช่วยคนให้รอดตายก็ไม่ได้ จะช่วยผู้อ่อนแอให้พ้นจากผู้มีกำลังก็ไม่ได้ 36จะทำให้คนตาบอดกลับมองเห็นก็ไม่ได้ จะช่วยคนให้พ้นภาวะคับขันก็ไม่ได้ 37จะสงสารแม่ม่ายหรือช่วยเหลือลูกกำพร้าก็ไม่ได้ 38รูปไม้ปิดทองหุ้มเงินเหล่านี้เป็นเสมือนก้อนหินที่ตัดมาจากภูเขา ผู้เลื่อมใสศรัทธารูปเหล่านี้จะต้องอับอาย 39ดังนั้น จะคิดหรือยืนยันว่ารูปเหล่านี้เป็นพระเจ้าได้อย่างไร
    40”แม้แต่ชาวเคลเดียก็ยังไม่ให้เกียรติรูปเหล่านี้ เพราะเมื่อเขาพบคนหูหนวกที่เป็นใบ้ เขาก็จะนำไปต่อหน้ารูปเทพเจ้าเบล วอนขอให้เทพเจ้าเบลทรงบันดาลให้พูดได้ ประหนึ่งว่าเทพเจ้าเบลทรงได้ยิน 41แม้ชาวเคลเดียรับรู้เช่นนี้ เขาก็ละทิ้งรูปเทพเจ้าไม่ได้ เพราะเขาไม่มีความคิด 42หญิงบางคนใช้เชือกคาดสะเอวมานั่งเผาแกลบตามริมถนน 43เมื่อผู้ผ่านมาพาหญิงคนหนึ่งไปหลับนอนด้วย นางก็จะเยาะเย้ยเพื่อนๆที่ไม่มีใครเลือกไปแก้เชือกคาดสะเอวออกเหมือนเธอe  44ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับรูปเทพเจ้าเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งหลอกลวง แล้วจะมาคิดหรือยืนยันว่ารูปเหล่านี้เป็นพระเจ้าได้อย่างไร
    45รูปเหล่านี้ช่างไม้และช่างทองประดิษฐ์ขึ้น เป็นเพียงผลงานของนายช่างเท่านั้น 46ผู้ประดิษฐ์รูปเหล่านี้ไม่มีชีวิตยืนยาว แล้วสิ่งที่เขาสร้างขึ้นนั้นจะเป็นพระเจ้าได้อย่างไร 47นายช่างเหล่านี้ทิ้งสิ่งหลอกลวงและไร้เกียรตินี้ไว้ให้ลูกหลาน 48เมื่อเกิดสงครามหรือภัยพิบัติ บรรดาสมณะก็ปรึกษากันว่าจะหาที่ซ่อนตัวและซ่อนรูปเหล่านี้ได้ที่ใด 49เป็นไปได้อย่างไรที่เขาไม่เข้าใจว่ารูปเหล่านี้ไม่ใช่พระเจ้า เพราะรูปเหล่านี้ยังช่วยตนเองให้พ้นจากสงครามและภัยพิบัติไม่ได้เลย 50เหตุผลที่กล่าวมาแล้วพิสูจน์ว่ารูปเทพเจ้าเหล่านี้เป็นเพียงไม้หุ้มทองหุ้มเงิน เป็นสิ่งหลอกลวง  จะเป็นที่ประจักษ์แจ้งแก่ชนชาติต่างๆและบรรดากษัตริย์ว่ารูปเหล่านี้ไม่ใช่พระเจ้า เป็นเพียงผลงานจากมือมนุษย์ ไม่มีคุณสมบัติของพระเจ้าอยู่เลย 51ยังจะมีผู้ใดอีกเล่าที่ไม่เห็นชัดว่ารูปเหล่านี้ไม่ใช่พระเจ้า
    52”รูปเหล่านี้จะแต่งตั้งกษัตริย์ปกครองแคว้นใดแคว้นหนึ่ง หรือจะทำให้ฝนตกเหนือมนุษย์ก็ไม่ได้ 53จะป้องกันสิทธิของตนหรือปลดปล่อยผู้ถูกกดขี่ข่มเหงก็ไม่ได้ เพราะไม่มีอำนาจใดเลย เป็นเหมือนนกกาที่บินอยู่ระหว่างท้องฟ้ากับแผ่นดิน 54ถ้าเกิดไฟไหม้วิหารของรูปเทพเจ้าที่ทำด้วยไม้หุ้มทองหรือหุ้มเงิน บรรดาสมณะจะหนีเอาตัวรอด รูปเหล่านี้จะถูกเผาเช่นเดียวกับไม้ขื่อของวิหาร 55รูปเหล่านี้จะต่อต้านกษัตริย์หรือข้าศึกก็ไม่ได้ 56แล้วจะคิดและยอมรับว่ารูปเหล่านี้เป็นพระเจ้าได้อย่างไร
    57”รูปไม้หุ้มเงินหุ้มทองเหล่านี้ไม่อาจพ้นมือขโมยและโจรไปได้ ขโมยจะลอกเงินลอกทองออก และยึดอาภรณ์ที่ปกคลุมอยู่แล้วหนีไป แต่รูปเหล่านี้ก็ช่วยตนเองไม่ได้ 58ดังนั้น กษัตริย์ที่มีความกล้าหาญหรือเครื่องใช้ในบ้านที่เป็นประโยชน์แก่เจ้าของ ยังดีกว่ารูปเทพเจ้าที่หลอกลวงเหล่านี้ ประตูบ้านที่ป้องกันสิ่งที่อยู่ในบ้านให้ปลอดภัยก็ยังดีกว่ารูปเทพเจ้าที่หลอกลวงเหล่านี้ แม้เสาไม้ในวังก็ยังดีกว่ารูปเทพเจ้าที่หลอกลวงเหล่านี้ 59ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวสว่างสุกใสถูกส่งมาทำประโยชน์ก็ยังยินดีปฏิบัติหน้าที่ของตน 60สายฟ้าแลบก็เช่นเดียวกัน เมื่อปรากฏก็เห็นได้ชัดเจน เช่นเดียวกับลมที่พัดไปทั่วแคว้น 61เมื่อพระเจ้าทรงบัญชาให้เมฆปกคลุมทั่วโลก เมฆก็ปฏิบัติตามพระบัญชา ไฟที่มาจากเบื้องบนเผาภูเขาและป่า ก็ทำตามพระบัญชา 62แต่รูปเทพเจ้าเหล่านี้ไม่เหมือนกับสิ่งดังกล่าวทั้งความงามและพลังอำนาจ 63ดังนั้นจะคิดหรือยืนยันว่ารูปเหล่านี้เป็นพระเจ้าไม่ได้ เพราะรูปเหล่านี้ตัดสินลงโทษหรือทำคุณแก่มนุษย์ไม่ได้ 64เมื่อรู้ว่ารูปเหล่านี้ไม่ใช่พระเจ้า ท่านจงอย่ากลัวเขาเลย
    65”รูปเหล่านี้ไม่สาปแช่งหรืออวยพรกษัตริย์ 66จะแสดงเครื่องหมายบนท้องฟ้าให้นานาชาติเห็นก็ไม่ได้ ทั้งจะไม่ส่องแสงเหมือนดวงอาทิตย์และไม่ฉายแสงเหมือนดวงจันทร์ 67บรรดาสัตว์ป่าก็ยังดีกว่ารูปเหล่านี้ เพราะสัตว์ป่าหนีไปหาที่หลบภัยและดูแลตนเองได้ 68ดังนั้น ไม่มีวิธีใดเลยแสดงให้เราเห็นว่ารูปเหล่านี้เป็นพระเจ้า ท่านทั้งหลายจงอย่ากลัวเขาเลย
    69”รูปไม้หุ้มทองหุ้มเงินเหล่านี้เป็นเหมือนหุ่นไล่กาในไร่แตง ไม่เฝ้าอะไรเลย 70ยังเป็นเหมือนพุ่มหนามในสวน ที่นกทุกชนิดลงมาเกาะบนกิ่งได้ รูปไม้หุ้มทองหุ้มเงินเหล่านี้เป็นเหมือนศพที่ทิ้งอยู่ในความมืด 71ดูจากผ้ากำมะหยี่สีแดงเข้มและจากผ้าป่านfที่คลุมจนเปื่อยอยู่บนรูปเหล่านี้ ท่านก็รู้ว่ารูปเหล่านี้ไม่ใช่พระเจ้า จะผุพังและจะเป็นที่อับอายในแผ่นดิน 72คนดีมีธรรมที่ไม่มีรูปเทพเจ้าเลยก็ดีกว่า เพราะเขาจะไม่ต้องอับอาย”