พุทธศาสนิกและคริสตชนร่วมกันเสริมสร้างภราดรภาพ 
นครรัฐวาติกัน เมษายน 2014 ( VIS ) –
         พระคาร์ดินัล ฌอง –หลุยส์ โตรัน(Cardinal Jean-Louis Tauran) ประธานและคุณและพ่อ มิเกล แอนเจิล อายูดซ  กูโซท (Fr. Miguel Angel Ayuso Guixot M.C.C.J., เลขาธิการของสมณกระทรวงเพื่อศาสนสัมพันธ์ ลงนามในสาร ที่ส่งแก่พุทธศาสนิกในวันวิสาขบูชา (Festival of Vesakh)  ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนาทุกปี
         วันวิสาขบูชาเป็นวันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของศาสนาพุทธซึ่งระลึกถึงวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระพุทธองค์ ตามธรรมประเพณีด้านประวัติศาสตร์ พระพุทธองค์ประสูติ ตรัสรู้และปรินิพพาน,ระหว่างวันเพ็ญเดือนพฤษภาคม ดังนั้น มีการฉลองวันนี้ทุกปีและในหลายประเทศ. ในวันเหล่านั้น พุทธศาสนิกไปเยี่ยมวัดในท้องถิ่นเพื่อตักบาตรและเพื่อฟังพระธรรมของพระพุทธองค์ เอาใจใส่พิเศษในการนั่งสมาธิ และถือศีลแปดของพุทธศาสนา

       สารในปีนี้ มีชื่อว่า "พุทธศาสนิกและคริสตชนร่วมกันเสริมสร้างภราดรภาพ” ตามข้อความที่คัดลอกมาจากด้านล่างนี้
     “ปีนี้ ข้าพเจ้าขอทักทายฉันมิตรไมตรีด้ายแรงบันดาลใจของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสโอกาสวันสันติภาพโลก 2014   ภราดรภาพคือพื้นฐานและเส้นทางสู่สันติภาพ. ที่นั่น สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสประทานข้อสังเกตว่า “ภราดรภาพคือคุณลักษณะที่จำเป็น ของมนุษย์ เพราะเราเป็นสิ่งมีชีวิตที่ใช้เหตุผล. ความสำนึกที่มีชีวิตชีวาของความสัมพันธ์ของเรา ช่วยให้เราได้มองดูและปฏิบัติต่อกันและกันเป็นพี่น้องแท้, โดยปราศจากภราดรภาพ จะเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างสังคมที่ยุติธรรมและสันติภาพที่ยั่งยืนมั่นคง
       ธรรมประเพณีทางศาสนาของท่านเป็นแรงบันดาลใจ ก่อเกิดความเชื่อมั่นว่า ความสัมพันธ์ฉันมิตร การเสวนา  เพื่อแบ่งปันพระพรพิเศษ และการแลกเปลี่ยนที่พึงเคารพและมีความเห็นที่ผสานกลมกลืน ที่นำไปสู่ทัศนคติของความเมตตาและความรัก ซึ่งจะสร้างความสัมพันธ์ฉันพี่น้องที่แท้จริง. ท่านยังมีความเชื่อมั่นว่า รากของความชั่วร้ายทั้งหมด เป็นความไม่รู้และความเข้าใจผิด เกิดจากความโลภและความเกลียดชัง ซึ่งจะทำลายภราดรภาพ.  แต่น่าเสียดายที่ 'การกระทำในชีวิตประจำวันที่เห็นแก่ตัว ซึ่งเป็นรากของสงครามมากมายและความอยุติธรรมมาก', ป้องกันไม่ให้เราเห็นผู้อื่นว่า “เป็นสิ่งมีชีวิตที่กระทำสิ่งต่างๆเพื่อตอบแทน,สำหรับความเป็นหนึ่งเดียวกันและการมอบตัวเอง”
       ในฐานะที่เป็นพุทธศาสนิกและคริสตชน เราอาศัยอยู่ ในโลกทั้งหมด   มักจะถูกฉีกขาดด้วยการกดขี่, ความเห็นแก่ตัว, การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์, การเป็นคู่ต่อสู้ด้านชาติพันธุ์,การยึดกฏแบบตายตัวด้านความรุนแรงและด้านศาสนา, โลกที่ปฏิบัติต่อ “คนอื่น”ว่าด้อยกว่า,ไม่ใช่บุคคล,หรือคนที่ถูกข่มขู่ให้กลัวและถูกกำจัด ถ้าเป็นไปได้. อย่างไรก็ตาม เราถูกเรียกร้องตามจิตตารมณ์แห่งความร่วมมือกับผู้จาริกอื่นๆและกับคนที่มีน้ำใจดี, เพื่อเคารพและเพื่อปกป้องมนุษยชาติร่วมกันของเราในบริบทหลากหลายทางเศรษฐกิจและทางสังคม ทางการเมืองและทางศาสนา. ลองวาดภาพความเชื่อมั่นด้านศาสนาที่แตกต่างกัน, โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราได้รับเรียกว่า ที่จะเปิดเผยใน ประณามผู้ที่เจ็บป่วยทางสังคม ที่ก่อความเสียหายแก่พี่น้อง; จะเป็นผู้รักษาที่ช่วยให้คนอื่นๆ เติบโตในความเอื้ออาทรที่ไร้ความเห็นแก่ตัว, เป็นผู้สร้างการคืนดีที่ทำลายกำแพงแห่งความแตกแยก และส่งเสริมภราดรภาพแท้ระหว่างบุคคลและกลุ่มในสังคม
     โลกของเราทุกวันนี้  เป็นพยานถึงความรู้สึกของมนุษยชาติร่วมกันของเรา และทั่วโลกถามหาโลกที่มีความเป็นพี่น้อง มีสันติและเป็นธรรมมากขึ้น. แต่การปฏิบัติตามความหวังเหล่านี้ จะขึ้นอยู่กับการรับรู้ของคุณค่าสากล.  เราหวังว่า ศาสนสัมพันธ์จะมีส่วนร่วมในการยอมรับหลักการพื้นฐานของจริยธรรมสากล,เพื่อส่งเสริมความรู้สึกใหม่และลึกซึ้งแห่งความสามัคคีและความเป็นพี่น้องกันในสมาชิกทุกคนในครอบครัวมนุษย์. แท้จริง 'เราแต่ละคนได้รับ เรียกให้เป็นช่างฝีมือแห่งสันติ,โดยรวมเป็นหนึ่งไม่ใช่แตกแยก, โดยทำลายไม่ใช่ติดยึดความเกลียดชัง,ด้วย โดยการเปิดเส้นทางสู่การเสวนา ไม่ใช่สร้างกำแพงใหม่. ให้เราทำการเสวนาและพบปะกัน เพื่อสถาปนาวัฒนธรรมแห่งการเสวนาในโลก, คือวัฒนธรรมแห่งการพบปะพูดคุยกัน”