สมเด็จพระสันตะปาปา,พระสันตะปาปาของประชาชน
By Francesco Zizola / NOOR สำหรับนิตยสารไทม์

เมื่อสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส ที่เคยใช้พระนาม ฮอร์เก แปบร์โกกลิโอ ทรงเป็นพระสันตะปาปาองค์แรกที่เลือกชื่อนักบุญฟรังซิสแห่งอัสซีซี ซึ่งเป็นนักบุญองค์อุปถัมภ์คนจนในศตวรรษที่ 13. การเลือกชื่อใดก็ตาม บ่งชี้ถึงบุคคลิกภาพที่ชัดเจนของสมเด็จพระสันตะปาปา. ตามตำนานแล้ว ในศตวรรษที่ 13 นักบุญฟรังซิสแห่งอัสซีซีกลายเป็นศาสนบริการ เมื่อนักบุญฟรังซิสได้ยินเสียงที่เรียกท่านจากไม้กางเขนที่มีพระรูปของพระเยซูเจ้า ให้ท่านซ่อมแซมบ้านของพระเจ้า. แล้วท่านก็ได้ละทิ้งครอบครัวขายผ้าไหมที่ร่ำรวย  เพื่อไปอยู่กับคนจน. ท่านเป็นผู้ที่สร้างสันติ, เป็นผู้นำคาทอลิกคนแรกที่เดินทางไปอียิปต์เพื่อยุติสงครามครูเสด. ท่านยึดมั่นในเมตตาอย่างสุดจิตใจของท่าน.

            จากชื่อนักบุญ “ฟรังซิส”  สมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส ทรงปฏิบัติตามวาระสำคัญของนักบุญฟรังซิส ขณะที่พระศาสนจักรคาทอลิกตามที่พระสันตะปาปเบเนดิกต์ที่ 16  ทรงจินตนาการไว้ มีการขีดเส้นคำแนะนำทางจิตวิญญาณเป็นส่วนๆ  แต่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสตรัสกับคุณพ่ออันโตนิโอ สปาดาโร (Antonio Spadaro) บรรณาธิการของนิตยสาร ซิอิลตา กัตดตลากา (คณะสงฆ์เยสุอิต (Jesuit magazine- Civiltà Cattolica) ในบทสัมภาษณ์ที่ตีพิมพ์เมื่อปลายเดือนกันยายน 2013  ที่สมเด็จพระสันตะปาปาทรงเห็นว่า "พระศาสนจักรเป็นโรงพยาบาลสนามหลังจากการรบสู้”.  "วิสัยทัศน์ของสมเด็จพระสันตะปาปาเน้นวิสัยทัศน์ของงานอภิบาล  ไม่แง่ทฤษฎี – ที่พระศาสนจักรต้องเปลี่ยนแปลงเรื่องอำนาจของสันตะสำนัก (ใช่) จากความต้องการ ให้คนอื่นแสดงความเคารพจากที่ไกล มาเป็นการทำศาสนบริการและการโอบกอดคนจนที่ขาดชีวิตจิตวิญญาณและโดดเดี่ยว สมเด็จพระสันตะปาปาทรงขยายความคิดนี้ในพระสมณสาสน์เตือนชื่อ “ความชื่นชมยินดีแห่งพระวรสาร”  (Evangelii Gaudium) 288 ข้อที่สมเด็จพระสันตะปาปาตรัสว่า  "พ่อปรารถนาให้พระศาสนจักรที่บอบช้ำ บาดเจ็บ... ออกมาอยู่ตามถนน มากกว่าพระศาสนจักรที่ล้มป่วยและกักขังตัวเอง  ยึดมั่นกับการรักษาความปลอดภัยของตัวเอง พระองค์ทรงประพันธ์สมณสาส์นเล่มนี้เพื่อแสดงความชัดเจนของพระองค์ว่า ไม่ทรงพระประสงค์ให้สมณสาสน์เพียงแค่เป็นบทสนทนา แต่ทรงพระประสงค์ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจริงๆ
       พระองค์ทรงเลิกความเคยชินที่ให้พระสงฆ์ใช้คำนำหน้าว่า “มงซินญอร์” ซึ่งมุ่งเรื่องวิชาชีพในลำดับชั้นตำแหน่งและมุ่งเน้นแต่วิชาชีพหลัก แทนที่จะมุ่งงานอภิบาล พระองค์ตรัสกับที่ประชุมของนักการทูตของวาติกันว่า พระองค์ทรงประสงค์ให้พวกเขาระบุคุณสมบัติของผู้ที่จะดำรงตำแหน่งพระสังฆราชในประเทศบ้านเกิดว่า ต้องเป็นคน "อ่อนโยน อดทนและเปี่ยมความเมตตากรุณา  มีจิตใจยากจนอย่างร่าเริง มีอิสรภาพของพระเจ้า และดำเนินชีวิตเรียบง่าย และอดออมอย่างเห็นได้ชัด” สำหรับสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส, ความยากจนไม่ใช่เป็นเพียงเมตตาสงเคราะห์ แต่เป็นเรื่องความยุติธรรมด้วย. พระศาสนจักรไม่ใช่การปกครองตามลำดับชั้นจากกรุงโรม แต่ควรเป็นกระจกสะท้อนถึงคนยากจน
สิ่งที่จะช่วยอธิบายว่า ทำไมพระองค์ทรงเปลี่ยนจากผู้ที่มีหน้าที่แจกทานโดยคนอื่นจ้างมา (Vatican Almoner) ที่ถูกรับรองมา 800 ปีแล้ว และมักจะถูกสงวนไว้สำหรับนักการทูต.  สมเด็จพระสันตะปาปาตรัสกับพระอัครสังฆราช  Konrad Krajewski แห่งโปแลนด์ ซึ่งเป็นผู้ที่ปรับตัวง่ายว่า ให้ทำวาติกันให้เป็นระเบียงด้านหน้าใหม่ “ท่านสามารถขายโต๊ะทำงานของท่าน ท่านไม่จำเป็นต้องใช้โต๊ะทำงานหรอก แต่จำเป็นต้องเดินออกจากวาติกัน  ไม่ต้องให้คนมารอท่าน ด้วยการสั่นกระดิ่ง แต้ท่านต้องออกไป มองหาคนยากจน" พระอัครสังฆราชท่านนี้จึงออกไปแจกเงินคนจน รวมทั้งแจกบัตรโทรศัพท์จำนวน 16,000 ใบและของขวัญแก่ผู้อพยพที่รอดตายจากเรือล่ม เพื่อให้พวกเขาสามารถโทรศัพท์ไปหาครอบครัวให้กลับมาอยู่ใน Eritrea. สมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิสมักจะให้จดหมายกองมหึมาแก่พระอัครสังฆราชท่านนี้พร้อมด้วยคำแนะนำของพระองค์. เพื่อช่วยเหลือผู้ที่เขียนจดหมายมาถึงพระองค์ ดูเหมือน พระพันธกิจนี้เป็นคำเตือนล่วงหน้าที่จำเป็นว่า เร็วๆนี้ ถ้านครรัฐวาติกันปฏิเสธที่จะทำตามพระประสงค์ของพระองค์ พระอัครสังฆราชท่านนี้พูดเป็นนัยว่า หลายครั้ง สมเด็จพระสันตะปาปาทรงเผยความลับโดยไม่ตั้งพระทัยที่จะเสด็จออกจากวาติกันด้วยการสวมอาภรณ์เป็นพระสงฆ์ธรรมดาเพื่อไปแจกทานแก่คนจน


อ่านเพิ่มเติม:  สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรันซิส: บุคคลแห่งปี 2013 | TIME.com http://poy.time.com/2013/12/11/person-of-the-year-pope-francis-the-peoples - / # ixzz2oesdU7Dy