แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

24 มิถุนายน

สมโภช การบังเกิดของนักบุญยอห์น  ผู้ทำพิธีล้าง

(The Nativity of St John the Baptist, solemnity)

 

Nativity John the Baptist 15นักบุญยอห์น  ผู้ทำพิธีล้าง  เป็นนักบุญเพียงองค์เดียวในคริสตจักรที่มีวันฉลองทั้งวันเกิด และวันตาย  โดยการกำหนดวันเกิดของท่านนั้น  นับวันล่วงหน้าหกเดือนก่อนวันที่พระเยซูเจ้าทรงบังเกิด  - ส่วนวันระลึกถึงท่านถูกตัดศีรษะ  กำหนดเป็นวันที่ 29 สิงหาคม  ที่จริงสิทธิพิเศษนี้ มีไว้สำหรับพระเยซูเจ้า  และพระนางพรหมจารีมารีย์เท่านั้น ( - วันฉลองแม่พระบังเกิด คือ วันที่ 8 กันยายน )  ที่ท่านได้รับสิทธิ์เช่นนี้ก็เป็นไปตามที่นักบุญเบดา  พระสงฆ์และนักปราชญ์พระศาสนจักร (St Bede the Venerable) ได้กล่าวไว้ว่า  "ในการบังเกิดมา  การเทศน์สอนประชาชน  และการทำพิธีล้างของนักบุญยอห์นนั้น  ท่านได้เป็นพยานยืนยันถึงการเสด็จมาบังเกิด  การประกาศข่าวดี  และพิธีล้างของพระคริสต์ที่กำลังจะมาถึง"

 

พระเยซูเจ้าได้เคยตรัสไว้ว่า  "ในบรรดาผู้ที่เกิดจากสตรี  ไม่มีใครยิ่งใหญ่กว่ายอห์นอีกแล้ว" (ลก 7:28)  ยิ่งกว่านั้น  ในขณะที่พระเยซูเจ้า และพระนางมารีย์ทรงปฏิสนธิในพระหรรษทาน (= ปราศจากบาปกำเนิด)  นักบุญยอห์นผู้ทำพิธีล้าง  ซึ่งปฏิสนธิโดยมีบาปกำเนิดเหมือนมนุษย์คนอื่นๆ แต่ก็ได้รับการทำให้ศักดิ์สิทธิ์ตอนที่อยู่ในครรภ์ของมารดา  "... เขาจะได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม  ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ของมารดา" (ลก 1:15)

 

บิดาของยอห์น  คือ เศคาริยาห์  เป็นสมณะประจำเวรในหมวดอาบียาห์  ทำหน้าที่รับใช้ในพระวิหาร  และมารดาคือ นางเอลีซาเบธ  จากตระกูลสมณะอาโรน  ทั้งสองคนชรามากแล้ว  ความยิ่งใหญ่และความพิเศษของนักบุญยอห์นในประวัติศาสตร์แห่งความรอดคือ  ช่วงจังหวะเวลาในการเกิดมา  และการทำภารกิจของท่าน  ดำเนินไปเป็นคู่ขนานกับการเสด็จมาบังเกิด และการประกาศข่าวดีขององค์พระผู้ไถ่  ซึ่งนักบุญลูกาก็ได้บันทึกไว้เป็นคู่ขนานตามลำดับ  เช่นว่า  การแจ้งข่าวของอัครทูตสวรรค์กาเบรียลว่านางเอลีซาเบธ  ซึ่งอยู่ในวัยชรามากแล้วจะให้กำเนิดบุตร  และแด่พระนางมารีย์  ซึ่งยังเป็นพรหมจารีอยู่ว่าจะทรงครรภ์  และให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง  ซึ่งจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ และพระเจ้าสูงสุด  โดยพระจิตเจ้าจะเสด็จลงมาเหนือพระนางมารีย์  และพระอานุภาพสูงสุดจะแผ่เงาปกคลุมพระนาง (เทียบ ลก 1:31, 35)

 

ในการทำตามบทบาทหน้าที่ของท่านที่เป็นผู้เตรียมทางเพื่อต้อนรับพระเมสสิยาห์  ก็เป็นไปตามที่ประกาศกอิสยาห์ได้กล่าวทำนายไว้  คือ "เสียงหนึ่งร้องว่า จงเตรียมทางของพระยาเวห์ในถิ่นทุรกันดาร  จงเปิดทางตรงในทุ่งเวิ้งว้างสำหรับพระเจ้าของเราเถิด" (อสย 40:3) และการประกาศถึงพระเมสสิยาห์  "นี่คือลูกแกะของพระเจ้า  ผู้ทรงลบล้างบาปของโลก"  (ยน 1:29)  แล้วตัวท่านก็ค่อยๆ ลดบทบาทลง  "พระองค์จะต้องทรงยิ่งใหญ่ขึ้น  ส่วนข้าพเจ้าจะต้องด้อยลง" (ยน 3:30)  และท้ายสุดที่ถือเป็นส่วนหนึ่งในภารกิจของท่านที่จะทำทางขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้ตรง  ท่านจึงมิได้รีรอที่จะยืนหยัดต่อความจริง  โดยกล่าวคำตักเตือนไปถึงผู้ปกครองแผ่นดิน  คือกษัตริย์เฮโรด  อันติปาส (Herod Antipas)  ที่รับนางเฮโรเดียส  ภรรยาของฟิลิปพระอนุชา  มาเป็นมเหสี  ท่านจึงถูกกษัตริย์เฮโรดองค์นี้ทรงสั่งให้จับกุม  และล่ามโซ่ขังคุกไว้  ต่อมาก็ถูกตัดศีรษะในวันคล้ายวันประสูติของกษัตริย์เฮโรด  ตามคำขอของบุตรหญิงของนางเฮโรเดียส  ท่านได้สิ้นชีพเพื่อเป็นพยานยืนยันถึงความจริง

 

(ถอดความโดย คุณพ่อ วิชา  หิรัญญการ จากหนังสือ Saint Companions For Each Day ; เขียนโดย A.J.M. Mausolfe และ  J.K. Mausolfe)