แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

V. ซีโมนเป็นมหาสมณะและผู้ปกครองชาวยิว
(143-134 ก.ค.ศ.)

ซีโมนรับตำแหน่งแทนโยนาธาน
 13          1ซีโมนได้ยินว่าตรีโฟรวบรวมกำลังพลจำนวนมากเพื่อไปรุกรานและทำลายแผ่นดินยูดาห์ 2เมื่อเขาเห็นว่าประชากรตกใจกลัวจนตัวสั่น เขาก็ขึ้นไปกรุงเยรูซาเล็ม เรียกประชุมประชากร 3ให้กำลังใจเขาเหล่านั้นดังนี้
“ท่านทั้งหลายรู้ว่าข้าพเจ้ากับพี่น้องและวงศ์ตระกูลได้ทำสิ่งใดเพื่อธรรมบัญญัติและพระวิหาร เราได้ผ่านสงครามและประสบความยากลำบากมามากเพียงใด 4เพื่อเห็นแก่การนี้ และเห็นแก่อิสราเอล พี่น้องทุกคนของข้าพเจ้าต้องสิ้นชีวิตa เหลือข้าพเจ้าเพียงผู้เดียว 5บัดนี้ ข้าพเจ้าสาบานว่าจะไม่มีวันที่ข้าพเจ้าจะหนีเอาตัวรอดในยามยากลำบาก เพราะข้าพเจ้าไม่มีค่ามากกว่าพี่น้อง 6ข้าพเจ้าจะปกป้องชนชาติของข้าพเจ้าและพระวิหาร รวมทั้งบุตรภรรยาของท่าน เพราะบรรดาชนต่างชาติเกลียดชังเรา รวมกำลังเพื่อจะทำลายพวกเรา”
7เมื่อประชากรได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ ก็มีกำลังใจขึ้น 8ร้องตอบเสียงดังว่า “ท่านเป็นผู้นำพวกเราแทนยูดาสและโยนาธานน้องชายของท่าน 9จงนำพวกเราออกสู้รบเถิด เราจะทำทุกสิ่งตามที่ท่านสั่ง”b
10ซีโมนจึงระดมกำลังชายฉกรรจ์ทุกคนที่จับอาวุธได้ รีบบูรณะกำแพงกรุงเยรูซาเล็มให้เสร็จ และเสริมกำลังโดยรอบ 11เขาส่งโยนาธาน บุตรชายของอับซาโลม ไปเมืองยัฟฟาพร้อมกับกำลังพลจำนวนมาก โยนาธานขับไล่ผู้ที่อยู่ในเมืองนั้นออกไป แล้วหยุดพักอยู่ที่นั่นc

ซีโมนขับไล่ตรีโฟออกจากแคว้นยูเดีย
    12ตรีโฟเคลื่อนกำลังพลจำนวนมากจากเมืองโทเลมาอิสมาในแผ่นดินยูดาห์ เขาพาโยนาธานเป็นเชลยมาด้วย 13ซีโมนตั้งค่ายที่เมืองอะดิดา ต่อหน้าที่ราบ 14เมื่อตรีโฟรู้ว่าซีโมนได้รับตำแหน่งแทนโยนาธานน้องชาย และมีเจตนาจะสู้รบ เขาก็ส่งคณะทูตไปเจรจาว่าดังนี้
    15”เรากักตัวโยนาธานน้องชายของท่านไว้ เพราะเขาเป็นหนี้ท้องพระคลังในการปฏิบัติหน้าที่ของเขา 16บัดนี้ ท่านจงส่งเงินหนักสามตัน และส่งบุตรชายสองคนของโยนาธานมาเป็นตัวประกัน เพื่อรับรองว่าเมื่อเป็นอิสระแล้ว เขาจะไม่เป็นกบฏต่อเรา แล้วเราจะปล่อยเขาเป็นอิสระ”
    17ซีโมนรู้ว่าคนเหล่านี้พูดหลอกลวง เขาจึงสั่งคนไปนำเงินและบุตรชายของโยนาธานมาให้ เพื่อมิให้ประชากรกลับเป็นศัตรูของตน 18และพูดว่า โยนาธานถูกฆ่าเพราะซีโมนไม่ส่งเด็กและเงินไปให้ตรีโฟ 19เขาจึงส่งบุตรชายของโยนาธานกับเงินหนักสามตันไปให้ แต่ตรีโฟผิดสัญญา ไม่ยอมปล่อยตัวโยนาธาน 20หลังจากนั้น ตรีโฟเข้ารุกรานและทำลายเขตแดน โดยอ้อมไปตามทางที่ไปสู่เมืองอโดราd แต่ซีโมนนำกองทัพไปดักตรีโฟไม่ว่าเขาจะไปทางใด 21ทหารที่อยู่ในป้อมอาคราส่งผู้นำสารไปพบตรีโฟ ขอร้องให้เดินทัพผ่านถิ่นทุรกันดารมาช่วยเหลือตน และส่งเสบียงมาให้ 22ตรีโฟจึงเตรียมกองทหารม้าไว้พร้อมที่จะออกเดินทาง แต่คืนนั้นหิมะตกหนัก เพราะหิมะ เขาจึงไปไม่ได้ แต่ยกทัพไปยังแคว้นกีเลอาด 23เมื่อมาถึงเมืองบัสกามาe เขาก็ฆ่าโยนาธานและฝังศพไว้ที่นั่น 24แล้วตรีโฟก็กลับไปยังแผ่นดินของตน

ซีโมนฝังศพโยนาธานที่เมืองโมดิน
    25ซีโมนให้คนไปรับกระดูกของโยนาธานน้องชาย นำมาฝังไว้ที่โมดิน เมืองของบรรพบุรุษ 26ชาวอิสราเอลทั้งหลายร่ำไห้ไว้ทุกข์อย่างมากให้เขาหลายวัน  27ซีโมนสร้างอนุสาวรีย์บนหลุมฝังศพของบิดาและพี่น้อง ทำด้วยหินขัดมันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ให้สูงมองเห็นได้แต่ไกล 28เขายังตั้งพีระมิดขึ้นเจ็ดองค์fเรียงกัน ให้บิดามารดาและพี่น้องทั้งสี่คน 29รอบพีระมิดเหล่านี้เขาสร้างเสาใหญ่ชุดหนึ่ง มีรูปอาวุธครบชุดสลักอยู่บนนั้น เพื่อเป็นอนุสรณ์ตลอดไป ถัดจากเครื่องอาวุธ เขาให้สลักรูปเรือใหญ่จนผู้ที่แล่นเรืออยู่ในทะเลมองเห็นได้  30อนุสาวรีย์ที่ซีโมนสร้างที่เมืองโมดิน ยังคงอยู่ที่นั่นจนถึงทุกวันนี้

กษัตริย์เดเมตรีอัสที่ 2 โปรดปรานซีโมน
    31ตรีโฟทรยศและปลงพระชนม์gยุวกษัตริย์อันทิโอคัส 32แล้วขึ้นครองราชย์แทน และสวมมงกุฎแห่งอาเซีย ทำให้เกิดหายนะมากมายในแผ่นดิน 33ซีโมนสร้างป้อมปราการในแคว้นยูเดีย สร้างหอสูงใหญ่ สร้างกำแพงแน่นหนาโดยรอบ มีประตูใหญ่ใส่ดาล และเก็บเสบียงอาหารไว้ในป้อมเหล่านี้ 34ซีโมนยังเลือกคนบางคน ส่งไปเฝ้ากษัตริย์เดเมตรีอัส ขอให้ทรงยกเว้นภาษีแก่เขตปกครองของตน เพราะสิ่งที่ตรีโฟทำมีแต่การปล้นสะดมh 35กษัตริย์เดเมตรีอัสทรงรับข้อเสนอและทรงส่งพระราชสารตอบว่าดังนี้
    36”กษัตริย์เดเมตรีอัสขอส่งความสุขมายังซีโมนมหาสมณะและพระสหาย และมายังบรรดาผู้อาวุโสและชนชาติยิว 37เราได้รับมงกุฎทองคำและกิ่งปาล์มที่ท่านส่งมาให้เราแล้ว เราพร้อมจะทำสัญญาสันติภาพกับท่าน และจะเขียนจดหมายไปแจ้งให้บรรดาข้าราชการรู้ว่าท่านได้รับการยกเว้นภาษี 38สิ่งที่เราเคยกำหนดไว้เกี่ยวกับท่านยังมีผลบังคับต่อไป ป้อมปราการที่ท่านสร้างจะเป็นของท่าน 39เราให้อภัยความผิดและข้อบกพร่องที่ท่านทำมาจนถึงวันนี้ ภาษีแก่กษัตริย์ที่ท่านติดค้างอยู่i และภาษีอื่นๆที่เคยเก็บจากกรุงเยรูซาเล็มก็ไม่ต้องเก็บอีกต่อไป 40ถ้าท่านใดมีคุณสมบัติเหมาะสมจะรับราชการทหารกับเรา ก็จงสมัครเข้ามาเถิด ขอให้มีสันติระหว่างเรากับท่าน”
    41ดังนั้น ในปีหนึ่งร้อยเจ็ดสิบj ศักราชกรีก ชาวอิสราเอลก็พ้นจากแอกของชนต่างชาติ 42ประชากรเริ่มเขียนในเอกสารของตน และระบุในสัญญาว่า “ในปีแรกของซีโมนมหาสมณะผู้ยิ่งใหญ่ ผู้บัญชาการสูงสุด และผู้ปกครองkชาวยิว”

ซีโมนยึดเมืองเกเซอร์
    43เวลานั้น ซีโมนยกทัพมาตั้งค่ายล้อมเมืองเกเซอร์lไว้ สร้างหอเคลื่อนที่เข็นมาประชิดเมือง โจมตีหอคอยแห่งหนึ่งแล้วยึดไว้ได้ 44ทหารที่อยู่ในหอเคลื่อนที่กระโดดเข้าเมือง ก่อให้เกิดความวุ่นวายเป็นอันมาก 45ชาวเมืองและบุตรภรรยาขึ้นบนกำแพงเมือง ฉีกเสื้อผ้าของตนด้วยความทุกข์ ร้องเสียงดังวอนขอซีโมนให้สงบศึก 46กล่าวว่า “อย่าทำกับพวกเราสมกับความผิดของเราเลย แต่โปรดเมตตาเราเถิด”
    47ซีโมนยอมทำสัญญาสงบศึกด้วย ไม่ต่อสู้กับเขาต่อไป แต่บังคับชาวเมืองให้ออกไป แล้วสั่งทหารให้เอารูปเคารพออกจากบ้านเรือนไปทิ้ง ทำให้บ้านเรือนหมดมลทิน แล้วทุกคนเดินขับร้องสรรเสริญถวายพระพรแด่พระเจ้าเข้าไปในเมือง 48ซีโมนสั่งให้นำทุกสิ่งที่เป็นมลทินออกไปทิ้งให้หมด แล้วให้คนที่ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติอาศัยอยู่ในเมือง เขายังซ่อมแซมป้อมปราการและสร้างที่พำนักของตนไว้ในเมืองนั้นด้วย

ซีโมนยึดป้อมอาคราที่กรุงเยรูซาเล็ม
    49ทหารที่อยู่ในป้อมอาคราที่กรุงเยรูซาเล็ม ถูกขัดขวางไม่ให้เข้าออกไปซื้อขายmในบริเวณนั้น เขาจึงหิวโหยมาก หลายคนต้องตายเพราะอดอาหาร 50เขาจึงร้องขอสงบศึกกับซีโมน ซีโมนก็ยอม แต่บังคับให้เขาออกไปจากที่นั่น แล้วสั่งให้ชำระป้อมอาคราจากทุกสิ่งที่เป็นมลทิน 51วันที่ยี่สิบสามของเดือนที่สอง ปีหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเอ็ดnศักราชกรีก ชาวยิวเข้าไปในป้อมอาครา ขับร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า โบกกิ่งปาล์ม ดีดพิณเล็กพิณใหญ่ ตีฉิ่งฉาบ เขาโห่ร้องและขับร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า เพราะเขาได้ขจัดศัตรูตัวฉกาจออกไปจากอิสราเอลแล้ว 52ซีโมนกำหนดให้ฉลองวันนั้นด้วยความยินดีเป็นประจำทุกปี เขายังสร้างกำแพงและป้อมปราการบนเนินเขาที่ตั้งพระวิหาร ซึ่งอยู่ข้างป้อมอาครา แล้วเข้าพำนักอยู่ที่นั่นพร้อมกับทหารของตน 53เมื่อซีโมนเห็นว่ายอห์นบุตรชายของตนเป็นผู้ใหญ่แล้ว จึงแต่งตั้งเขาให้เป็นผู้บังคับบัญชากำลังพลทั้งหมด ยอห์นจึงไปพำนักอยู่ที่เมืองเกเซอร์

คำชมเชยซีโมน
14    1ปีหนึ่งร้อยเจ็ดสิบสองa ศักราชกรีก กษัตริย์เดเมตรีอัสทรงระดมกำลังพล ยกไปยังแคว้นมีเดีย เพื่อรวบรวมกำลังพลเพิ่มเติมมาต่อสู้กับตรีโฟ 2เมื่อกษัตริย์อาร์ซาเชสแห่งเปอร์เซียและมีเดียbทรงทราบว่ากษัตริย์เดเมตรีอัสทรงเข้ามาในเขตแดนของพระองค์ ก็ทรงสั่งแม่ทัพคนหนึ่งไปจับกษัตริย์เดเมตรีอัส 3แม่ทัพผู้นี้ก็ยกทัพไปสู้รบกับกองทัพของกษัตริย์เดเมตรีอัสจนมีชัยชนะ จับพระองค์นำไปถวายกษัตริย์อาร์ซาเชส ซึ่งมีพระบัญชาให้จองจำพระองค์ไว้

    4แผ่นดินยูดาห์มีความสงบสุขตลอดชีวิตของซีโมนc
        เขาแสวงหาความดีสำหรับชนชาติของตน
    ทุกคนชื่นชมอำนาจปกครองของเขา
        และชื่นชมในเกียรติยศที่เขามีตลอดชีวิต
    5วีรกรรมสูงสุดของเขาคือยึดเมืองยัฟฟามาเป็นท่าเรือ
        เปิดทางไปสู่เกาะต่างๆในทะเล
    6เขาขยายเขตแดนให้ชนชาติของตน
        และปกครองบ้านเมืองอย่างมั่นคง
    7เขาจับศัตรูจำนวนมากเป็นเชลยศึก
        ยึดเมืองเกเซอร์ เมืองเบธซูร์และป้อมอาคราd
    เขากำจัดสิ่งที่เป็นมลทินทั้งหมดออกจากป้อมอาครา
        ไม่มีใครต้านทานเขาได้
    8ชาวนาเพาะปลูกด้วยความสงบสุข
        ผืนแผ่นดินให้ผลิตผลอุดมสมบูรณ์
        ต้นไม้ในทุ่งนาให้ผลมากมาย
    9คนชรานั่งอยู่ตามลานสาธารณะ
        สนทนากันถึงความเจริญรุ่งเรือง
        ชายหนุ่มสวมเครื่องรบสง่างาม
    10ซีโมนสะสมเสบียงอาหารไว้ตามเมืองต่างๆ
        สร้างป้อมปราการไว้ป้องกันเมือง
        ชื่อเสียงของเขาเลื่องลือไปจนสุดปลายแผ่นดิน
    11เขาทำให้แผ่นดินมีสันติสุข
        ทุกคนในอิสราเอลมีความชื่นชมอย่างยิ่ง
    12แต่ละคนนั่งอยู่ใต้เถาองุ่น และใต้ต้นมะเดื่อเทศของตน
        ไม่มีผู้ใดทำให้เขาต้องกลัว
    13ไม่มีศัตรูใดเหลืออยู่ในแผ่นดิน
        บรรดากษัตริย์ทรงพินาศไปหมดในวันเหล่านั้น
    14ซีโมนทำให้คนต่ำต้อยในหมู่ประชากรมีกำลังขึ้น
        มีความกระตือรือร้นต่อธรรมบัญญัติ
        กำจัดคนอธรรมe และคนชั่วทุกคน
    15เขาทำให้พระวิหารสง่างาม
        มีอุปกรณ์ใช้สอยอย่างมากมาย

ซีโมนรื้อฟื้นสัญญากับชาวโรมันและชาวสปาร์ตา
    16เมื่อชาวโรมันและชาวสปาร์ตาได้ยินว่าโยนาธานเสียชีวิต ก็โศกเศร้ายิ่งนัก 17แต่เมื่อเขาได้ยินว่าซีโมนพี่ชายขึ้นเป็นมหาสมณะแทนโยนาธาน ปกครองแผ่นดินและเมืองต่างๆอย่างมั่นคง 18เขาจึงเขียนสารจารึกลงบนแผ่นทองสัมฤทธิ์เพื่อรื้อฟื้นมิตรภาพและสัญญาที่เคยทำไว้กับยูดาสและโยนาธานน้องชายf 19เอกสารนี้อ่านต่อหน้าที่ประชุมในกรุงเยรูซาเล็ม 20นี่เป็นสำเนาของสารที่ชาวสปาร์ตาส่งมา
    “ผู้ปกครองและชาวเมืองสปาร์ตาขอส่งความสุขมายังซีโมน มหาสมณะ บรรดาผู้อาวุโสและสมณะทั้งหลาย รวมทั้งประชาชนชาวยิว พี่น้องของเรา 21คณะทูตที่ท่านส่งมาพบประชาชนของเราได้แจ้งให้เราทราบถึงเกียรติยศชื่อเสียงของท่าน เรามีความยินดีที่ท่านส่งคณะทูตมาพบเรา 22เราได้บันทึกถ้อยคำของเขาไว้ในจดหมายเหตุของประชาชนว่า นูเมนีอัสบุตรของอันทิโอคัส และอันทิปาเทอร์บุตรของยาโสน ทูตของชาวยิวมาพบเราเพื่อรื้อฟื้นสัมพันธไมตรีกับเรา 23ประชาชนยินดีต้อนรับคนเหล่านี้อย่างมีเกียรติ และลงมติให้จารึกถ้อยคำของเขาไว้ในจดหมายเหตุ เพื่อให้ประชาชนชาวสปาร์ตาอ่านดูได้ และไม่ลืม เรายังได้เขียนสำเนาส่งมาให้ซีโมนมหาสมณะด้วย”
    24หลังจากนั้น ซีโมนส่งนูเมนีอัสไปยังกรุงโรมเพื่อรื้อฟื้นสัมพันธไมตรีกับชาวโรมัน นูเมนีอัสนำโล่ทองคำใหญ่ หนักประมาณสามหมื่นบาทไปด้วย

ประชากรอิสราเอลประกาศเกียรติยศของซีโมน
    25เมื่อประชาชนได้ยินเรื่องเหล่านี้ ก็พูดว่า “พวกเราจะตอบแทนซีโมนและบรรดาบุตรของเขาได้อย่างไร 26เขากับพี่น้องและวงศ์ตระกูลของเขายืนหยัดg ขับไล่ศัตรูของอิสราเอลออกไป ทำให้อิสรภาพกลับคืนมา”
    เขาจึงจารึกข้อความลงบนแผ่นทองสัมฤทธิ์ นำมาติดกับเสาบนเนินเขาเนินเขาศิโยน 27ข้อความที่จารึกไว้มีดังนี้
    “วันที่สิบแปด เดือนเอลุล ปีหนึ่งร้อยเจ็ดสิบสอง ศักราชกรีก ซึ่งเป็นปีที่สามในสมัยของซีโมน มหาสมณะผู้ยิ่งใหญ่ ที่ลานอสาราเมลh 28ได้ประกาศข้อความต่อไปนี้ต่อหน้าที่ประชุมใหญ่ของบรรดาสมณะ ประชากร ผู้นำชนชาติ และบรรดาผู้อาวุโสของแคว้น ดังนี้
    29ได้เกิดสงครามหลายครั้งในเขตแดนของเรา แต่ซีโมน บุตรของมัทธาธีอัส สมณะเชื้อสายโยอาริบ และบรรดาพี่น้อง ได้เสี่ยงอันตรายไปต่อสู้กับศัตรูของประชากร เพื่อปกป้องพระวิหารและธรรมบัญญัติ เขาเหล่านั้นได้นำเกียรติยศยิ่งใหญ่มาสู่ชนชาติของตน 30โยนาธานได้รวบรวมชนชาติให้เป็นหนึ่งเดียว ขึ้นเป็นมหาสมณะ แล้วก็เสียชีวิตไปรวมอยู่กับบรรพบุรุษ 31บรรดาศัตรูพยายามรุกรานเขตแดนของเขา และลงมือทำลายพระวิหาร 32ซีโมนก็ลุกขึ้นต่อสู้เพื่อชาติ เขาใช้ทรัพย์สมบัติiจำนวนมากของตนเพื่อจัดหาอาวุธสำหรับทหารในกองทัพของชาติ เขาจ่ายเงินให้บรรดาทหาร 33เขาสร้างป้อมปราการในเมืองต่างๆของแคว้นยูเดีย และที่เมืองเบธ-ซูร์ซึ่งอยู่ที่ชายแดนของแคว้นยูเดีย และเคยเป็นคลังอาวุธของศัตรู เขาจัดให้กองทหารยิวประจำอยู่ที่นั่น 34เขาสร้างป้อมปราการที่เมืองยัฟฟาริมทะเล และที่เมืองเกเซอร์ทางชายแดนด้านเมืองอาโซตัส ซึ่งเป็นที่ที่ข้าศึกเคยอยู่มาก่อน เขาจัดให้ชาวยิวอยู่ที่นั่นพร้อมกับทุกสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้ดำรงชีพอยู่ได้ 35เมื่อประชากรเห็นว่าซีโมนซื่อสัตย์ ตั้งใจจะนำเกียรติยศมาให้ชนชาติของตน ก็ตั้งเขาเป็นผู้นำและมหาสมณะ เพื่อตอบแทนการกระทำทั้งหมด ความชอบธรรมและความซื่อสัตย์ของเขาที่ได้แสดงต่อชนชาติของตน และตอบแทนที่เขาได้พยายามทุกวิถีทางเพื่อยกฐานะของประชากร”
    36”ในสมัยของซีโมน เขาขับไล่ชนต่างชาติออกไปจากเขตแดนjได้สำเร็จ โดยเฉพาะคนที่อยู่ในนครของดาวิดที่กรุงเยรูซาเล็ม พวกนี้เคยสร้างป้อมอาครา และออกมาสู้รบจากที่นั่น ทำให้บริเวณโดยรอบพระวิหารเป็นมลทิน สร้างความเสียหายอย่างมากแก่ความศักดิ์สิทธิ์ของพระวิหาร 37ซีโมนให้ทหารยิวประจำป้อมนี้ ทำให้ป้อมนี้มั่นคงขึ้นเพื่อป้องกันเขตแดนและนคร เขายังสร้างกำแพงกรุงเยรูซาเล็มให้สูงขึ้น 38กษัตริย์เดเมตรีอัสจึงทรงรับรองตำแหน่งมหาสมณะของเขา 39ทรงแต่งตั้งเขาให้เป็นพระสหายคนหนึ่งของพระองค์ และประทานเกียรติยศยิ่งใหญ่kแก่เขา 40ทรงทำเช่นนี้เพราะทรงได้ยินว่าชาวโรมันประกาศว่าชาวยิวเป็นมิตรสหาย พันธมิตรและพี่น้องl ทั้งยังต้อนรับคณะทูตของซีโมนอย่างมีเกียรติ”
    41”ทรงทราบอีกว่าชาวยิวและบรรดาสมณะยินดีให้ซีโมนเป็นผู้ปกครองและเป็นมหาสมณะของตนตลอดไป จนกว่าประกาศกที่แท้จริงจะปรากฏ 42ชาวยิวยินดีให้เขาเป็นผู้บัญชาการสูงสุด และผู้ดูแลกิจการของพระวิหาร เลือกผู้รับผิดชอบงานก่อสร้าง งานบริหารแผ่นดิน การจัดหาเครื่องอาวุธ และรักษาป้อมปราการ 43mทุกคนจะต้องเชื่อฟังเขา สัญญาทั้งหมดที่ทำในเขตแดนจะต้องทำในนามของเขา เขามีสิทธิ์สวมเสื้อคลุมสีม่วงแดง และสวมเครื่องประดับทองคำ 44ประชากรหรือสมณะคนใดไม่มีสิทธิ์โต้แย้งข้อกำหนดนี้ ไม่มีสิทธิ์ฝ่าฝืนคำสั่งของซีโมน ไม่มีสิทธิ์เรียกประชุมในเขตแดนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเขา และไม่มีผู้ใดมีสิทธิ์สวมเสื้อคลุมสีม่วงแดง หรือกลัดเข็มกลัดทองคำ 45ผู้ใดฝ่าฝืนหรือโต้แย้งข้อกำหนดนี้ข้อใดข้อหนึ่งย่อมมีความผิด”
    46”ประชากรทั้งหลายเห็นชอบกับการมอบอำนาจให้ซีโมนปฏิบัติตามข้อกำหนดเหล่านี้ 47ซีโมนตกลงและยินดีรับตำแหน่งมหาสมณะ ตำแหน่งผู้บัญชาการสูงสุด ตำแหน่งผู้ปกครองชาวยิวและบรรดาสมณะn และตำแหน่งผู้นำประชากรทั้งปวง”
    48ชาวยิวตกลงให้จารึกข้อความนี้บนแผ่นทองสัมฤทธิ์ และตั้งไว้ในที่สาธารณะในบริเวณพระวิหาร 49และให้เก็บสำเนาไว้ในห้องคลังของพระวิหาร เพื่อซีโมนและบรรดาบุตรจะนำมาอ้างอิงเป็นหลักฐานได้
    
พระราชสารจากกษัตริย์อันทิโอคัสที่ 7 ถึงซีโมน
15 1กษัตริย์อันทิโอคัส โอรสของกษัตริย์เดเมตรีอัส ทรงส่งพระราชสารจากเกาะในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนa มาถึงซีโมนมหาสมณะและผู้ปกครองชาวยิว และถึงประชากรทั้งหลาย 2มีความดังต่อไปนี้
    “กษัตริย์อันทิโอคัสขอส่งความสุขมาถึงซีโมน มหาสมณะและผู้ปกครอง และถึงประชากรชาวยิว 3การที่คนชั่วร้ายได้ยึดครองอาณาจักรของบรรพบุรุษของเรา ข้าพเจ้าตั้งใจจะยึดกลับคืนมาบูรณะให้เหมือนเดิม ข้าพเจ้าจึงระดมกำลังพลคนต่างชาติเป็นจำนวนมาก และเตรียมเรือรบ 4ข้าพเจ้าตั้งใจจะขึ้นบกในแคว้นนั้น เพื่อแก้แค้นผู้ที่ทำลายล้างและปล้นเมืองต่างๆในอาณาจักรของข้าพเจ้า
    5ข้าพเจ้าจึงรับรองการยกเว้นภาษีที่กษัตริย์องค์ก่อนๆเคยยกเว้นให้ท่าน และยกเว้นเครื่องบรรณาการอื่นๆทั้งหมดที่ท่านเคยถวายด้วยb 6ข้าพเจ้าให้ท่านมีสิทธิ์ทำเงินตราขึ้นใช้เองในแผ่นดินของท่านc 7ให้กรุงเยรูซาเล็มและพระวิหารเป็นอิสระ อาวุธทั้งหลายที่ท่านตระเตรียม และป้อมปราการที่ท่านสร้างไว้และยึดครองอยู่จะเป็นของท่านต่อไป 8หนี้สินทั้งหมด ทั้งปัจจุบันและอนาคตที่จะต้องจ่ายให้กษัตริย์ จะยกเลิกให้ท่านตลอดไป 9เมื่อเราได้อาณาจักรของเรากลับคืนมาแล้ว เราจะให้เกียรติอย่างสูงแก่ท่าน ชนชาติของท่าน และพระวิหาร เกียรติยศของท่านจะปรากฏไปทั่วแผ่นดิน”
    10ในปีหนึ่งร้อยเจ็ดสิบสี่d ศักราชกรีก กษัตริย์อันทิโอคัสเสด็จเข้าในแผ่นดินของบรรพบุรุษ กำลังพลทั้งหมดมาร่วมกับพระองค์ เหลือทหารเพียงไม่กี่คนอยู่กับตรีโฟ 11กษัตริย์อันทิโอคัสทรงไล่ตามตรีโฟ ซึ่งต้องหนีไปที่เมืองโดร์e ริมทะเล 12เขารู้ว่าตนจะต้องเคราะห์ร้าย เพราะกำลังพลทิ้งเขาไปแล้ว  13กษัตริย์อันทิโอคัสทรงตั้งค่ายอยู่หน้าเมืองโดร์ มีทหารราบหนึ่งแสนสองหมื่นคน และทหารม้าแปดพันคน 14พระองค์ทรงล้อมเมือง ขณะที่เรือเข้ามาสู้รบจากทะเล  พระองค์จึงทรงปิดเมืองไว้ได้ทั้งทางบกและทางน้ำ จนไม่มีใครเข้าออกได้

คณะทูตชาวยิวกลับจากกรุงโรม
    15ขณะนั้น นูเมนีอัสและพวกกลับมาจากกรุงโรม นำจดหมายที่ชาวโรมันเขียนถึงบรรดากษัตริย์และแคว้นต่างๆมาด้วย  ความในจดหมายมีดังนี้
    16”ลูชีอัสf กงสุลของชาวโรมัน ขอส่งความสุขมายังกษัตริย์โทเลมี 17คณะทูตของชาวยิวซึ่งเป็นเพื่อนและพันธมิตรของเรา ได้มาหาเราเพื่อรื้อฟื้นสัญญาและมิตรภาพตามที่เคยมี ซีโมนมหาสมณะและประชากรชาวยิวส่งเขามา 18เขาเหล่านี้ได้นำโล่ทองคำมีค่าเท่ากับเงินหนักสามหมื่นบาทgมาด้วย 19เราจึงตกลงจะเขียนถึงกษัตริย์และแคว้นต่างๆ ไม่ให้ทำร้ายชาวยิว หรือทำสงครามกับเขา กับเมืองของเขาหรือแคว้นที่เขาปกครอง และมิให้เป็นพันธมิตรกับผู้ที่ต่อสู้เขา 20เราตกลงจะรับโล่จากเขา 21ถ้าคนชั่วร้ายหนีจากแคว้นของเขามาลี้ภัยกับท่าน ท่านจงมอบคนเหล่านี้แก่ซีโมน มหาสมณะ เพื่อเขาจะได้ลงโทษตามกฎหมาย”
    22ลูชีอัสส่งจดหมายมีใจความคล้ายกันนี้ให้กษัตริย์เดเมตรีอัส กษัตริย์อัททาลัส กษัตริย์อาริอาราเทส และกษัตริย์อาร์ซาเชสh 23และส่งไปยังแคว้นต่างๆ ได้แก่ซัมสาเมส สปาร์ตา เดโลส มินโตส ซีชิโอน คาเรีย สามอส ปัมฟีเลีย ลีเซีย ฮาลิคาร์นาซัส โรดส์ ฟาเสลิส โขส ซีเด อาราโดส กอร์ทินา คนีดัส ไซปรัส และไซรีนi  24และส่งสำเนาจดหมายเหล่านี้ไปให้ซีโมน มหาสมณะ

กษัตริย์อันทิโอคัสที่ 7 ทรงขัดแย้งกับซีโมน
    25กษัตริย์อันทิโอคัสทรงตั้งค่ายอยู่ชายเมืองโดร์ ทรงใช้กองทหารและเครื่องอาวุธที่สร้างขึ้นเข้าโจมตีเมืองตลอดเวลา ทรงปิดกั้นมิให้ตรีโฟและพวกเข้าหรือออกจากเมืองได้ 26ซีโมนส่งทหารชำนาญศึกสองพันคน เงินทองและอุปกรณ์จำนวนมากไปช่วยกษัตริย์อันทิโอคัส 27แต่พระองค์ไม่ทรงยอมรับความช่วยเหลือเหล่านี้ กลับทรงถอนข้อตกลงที่เคยทรงทำไว้กับซีโมน และกลับทรงเป็นศัตรูกับเขา
    28กษัตริย์อันทิโอคัสทรงส่งอาเธโนเบียส พระสหายคนหนึ่งไปเจรจากับซีโมนว่า “ท่านทั้งหลายยึดครองป้อมอาคราที่กรุงเยรูซาเล็ม เมืองยัฟฟา และเกเซอร์ ซึ่งเป็นเมืองในอาณาจักรjของข้าพเจ้า 29ท่านทำลายล้างเขตแดนเหล่านี้ ทำความเสียหายในแผ่นดินอย่างมาก ทั้งยังยึดครองที่อื่นkในอาณาจักรของข้าพเจ้าอีกหลายแห่ง 30บัดนี้ จงคืนเมืองที่ท่านยึดไปกลับมาเถิด และคืนภาษีอากรที่ท่านได้เก็บนอกเขตแดนยูเดีย 31หรือจงจ่ายเงินหนักห้าร้อยตะลันต์แทน และจงจ่ายอีกห้าร้อยตะลันต์เพื่อชดเชยค่าเสียหายที่ท่านได้ทำและชดเชยเครื่องบรรณาการของเมืองต่างๆ     มิฉะนั้น ข้าพเจ้าจะยกทัพมาสู้รบกับท่าน”
    32อาเธโนเบียส พระสหายของกษัตริย์อันทิโอคัสมาที่กรุงเยรูซาเล็ม เมื่อเขาเห็นความรุ่งโรจน์ของซีโมน เห็นจานเงินจานทองในตู้ และความหรูหราอีกมากมาย เขาก็แปลกใจ และส่งพระราชสารให้ 33ซีโมนตอบเขาว่า “เราไม่ได้ยึดแผ่นดินของผู้อื่น ไม่ได้เอาของผู้อื่นมาเลย เอาแต่มรดกของบรรพบุรุษซึ่งศัตรูของเราเคยยึดไปอย่างอยุติธรรม 34เมื่อเรามีโอกาส เราก็ยึดมรดกของบรรพบุรุษของเรากลับคืนมา 35ส่วนเมืองยัฟฟาและเกเซอร์ ซึ่งท่านเรียกร้องให้คืนนั้น เราเต็มใจจ่ายค่าเมืองเหล่านี้ให้ท่านหนึ่งร้อยตาลันต์ เมืองเหล่านี้เคยทำความเสียหายมากมายแก่ประชากรและแผ่นดินของเราl”
    36อาเธโนเบียสไม่ตอบแต่ประการใด กลับไปเฝ้ากษัตริย์ด้วยความโกรธ ทูลรายงานถ้อยคำและความรุ่งโรจน์ของซีโมน รวมทั้งทุกสิ่งที่เขาได้เห็น กษัตริย์ทรงพระพิโรธอย่างยิ่ง

เซนเดเบียสข่มเหงชาวยิว
    37ตรีโฟลงเรือหนีไปยังเมืองออร์โธเซียm 38กษัตริย์อันทิโอคัสจึงทรงแต่งตั้งเซนเดเบียสเป็นผู้บัญชาการเขตแดนชายทะเล ประทานกำลังพลทหารราบและทหารม้าแก่เขา 39ทรงสั่งให้เคลื่อนพลไปตั้งค่ายที่ชายแดนแคว้นยูเดีย ทรงสั่งให้สร้างเมืองขิดโรนnขึ้นใหม่ เสริมประตูเมืองให้มั่นคงเพื่อต่อสู้กับประชากร ระหว่างนั้น กษัตริย์ทรงไล่ตามจับตรีโฟ 40เมื่อเซนเดเบียสมาถึงเมืองยัมเนีย เขาก็เริ่มข่มเหงประชากร เขารุกรานแคว้นยูเดีย จับประชากรเป็นเชลยหรือฆ่าเสีย 41เขาสร้างเมืองขิดโรนขึ้นใหม่ ทิ้งทหารม้าและกำลังพลไว้ที่นั่น เพื่อออกไปโจมตีตามถนนในแคว้นยูเดียตามพระบัญชาของกษัตริย์

บุตรของซีโมนขับไล่เซนเดเบียส
 16     1ยอห์นขึ้นจากเมืองเกเซอร์ไปรายงานให้ซีโมนบิดาทราบสิ่งที่เซนเดเบียสกระทำ 2ซีโมนจึงเรียกยูดาสและยอห์น บุตรชายคนโตมาสั่งว่า
    “พ่อกับพี่น้อง และวงศ์ตระกูลของเรา ได้ต่อสู้กับศัตรูของอิสราเอลaตั้งแต่วัยหนุ่มจนถึงทุกวันนี้ เราประสบความสำเร็จหลายครั้งในการช่วยอิสราเอลให้รอดพ้น 3บัดนี้ พ่อแก่แล้ว ส่วนลูก สวรรค์bโปรดให้ลูกอยู่ในวัยฉกรรจ์ ลูกทั้งสองจะต้องรับหน้าที่แทนพ่อกับน้องชายของพ่อ ออกไปสู้รบเพื่อชนชาติของเรา ขอสวรรค์โปรดช่วยลูกเถิด”
    4ยอห์นรวบรวมทหารชำนาญศึกและทหารม้าสองหมื่นคน ยกไปสู้รบกับเซนเดเบียส และค้างคืนที่เมืองโมดีน 5เขาลุกขึ้นแต่เช้าและเดินทางเข้าไปในที่ราบ ทันใดนั้นเขาก็เห็นกองทัพใหญ่ยกมาเผชิญหน้า มีทั้งทหารราบและทหารม้า ระหว่างกองทัพทั้งสองมีลำธารcขวางอยู่ 6ยอห์นdและทหารของเขาตั้งค่ายประจันหน้ากับศัตรู เมื่อเห็นว่าทหารส่วนใหญ่กลัวไม่กล้าข้ามลำธาร ยอห์นก็ข้ามไปก่อน พวกทหารเห็นดังนั้นก็ข้ามลำธารตามเขาไป 7เขาแบ่งกองทัพออกเป็นสองกอง ให้ทหารม้าอยู่กลางทหารราบe เพราะเห็นว่าทหารม้าของข้าศึกมีจำนวนมาก 8เสียงแตรดังขึ้น เซนเดเบียสและกองทัพของเขาถูกโจมตีจนแตกกระเจิงไป มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจำนวนมาก คนที่รอดตายก็หนีเข้าไปในป้อมปราการ 9ยูดาสพี่ชายของยอห์นได้รับบาดเจ็บ แต่ยอห์นไล่ตามข้าศึกไปจนถึงป้อมขิดโรนที่เซนเดเบียสสร้างขึ้นใหม่ 10พวกศัตรูหนีเข้าไปในหอคอยที่ตั้งอยู่ในทุ่งรอบเมืองอาโซทัส แต่ยอห์นจุดไฟเผา ทหารข้าศึกเสียชีวิตประมาณสองพันคน แล้วเขาก็ยกทัพกลับแคว้นยูเดียอย่างปลอดภัย

ซีโมนถูกฆ่า – ยอห์นฮีร์กันสืบตำแหน่งต่อจากบิดา
    11โทเลมี บุตรของอาบูบัส ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการทหารในที่ราบรอบเมืองเยริโคf เขามีเงินทองมากมาย 12เพราะเป็นบุตรเขยของมหาสมณะ 13เขามีใจทะเยอทะยาน ตั้งใจจะยึดครองแผ่นดิน จึงวางแผนใช้กลอุบายกำจัดซีโมนและบรรดาบุตร 14ซีโมนมาเยี่ยมเมืองต่างๆในเขตแดนนั้น เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน ในปีหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเจ็ด เดือนสิบเอ็ด คือเดือนเชบัทg เขาลงไปที่เมืองเยริโคพร้อมกับมัทธาธีอัสและยูดาส บุตรของตน 15โทเลมี บุตรของอาบูบัสเสแสร้งต้อนรับเขาอย่างดีในป้อมเล็กๆที่ตนสร้างขึ้น ชื่อ “โดก”h จัดงานเลี้ยงใหญ่ แต่ซ่อนทหารไว้ที่นั่น 16เมื่อซีโมนและบุตรทั้งสองคนดื่มจนมึนเมาแล้ว โทเลมีและทหารก็ลุกขึ้น จับอาวุธเข้าโจมตีซีโมนในห้องเลี้ยงอาหาร ฆ่าซีโมน บุตรทั้งสองคนi และผู้รับใช้บางคน 17โทเลมีทรยศอย่างน่ารังเกียจ ทำความชั่วตอบแทนความดี
18โทเลมีเขียนรายงานเรื่องนี้ส่งไปถวายกษัตริย์ ทูลขอให้ทรงส่งกองทหารมาช่วย และขอให้ทรงแต่งตั้งตนเป็นผู้ปกครองเขตแดนและเมืองต่างๆแทนซีโมน 19เขาส่งทหารอีกกลุ่มหนึ่งไปที่เมืองเกเซอร์เพื่อกำจัดยอห์น และส่งจดหมายไปถึงบรรดานายทหารjให้มาหาตน สัญญาว่าจะให้เงินทองและของกำนัล 20เขายังส่งทหารอื่นๆไปยึดกรุงเยรูซาเล็มและเนินเขาที่ตั้งพระวิหาร 21แต่มีผู้วิ่งล่วงหน้าไปแจ้งข่าวให้ยอห์นรู้ว่าบิดาและพี่น้องของเขาเสียชีวิตหมดแล้ว บัดนี้โทเลมียังส่งคนมาฆ่าเขาด้วย 22เมื่อยอห์นรู้เรื่องนี้ ก็ตกใจมาก จับและฆ่าพวกทหารที่โทเลมีส่งมาฆ่าตน เพราะเขารู้ว่าคนเหล่านั้นมาเพื่อฆ่าตนk
    23เหตุการณ์อื่นๆของยอห์น การสู้รบและความกล้าหาญของเขา การบูรณะกำแพงเมืองและกิจการอื่นๆ 24ล้วนมีบันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารของสมัยที่เขาเป็นมหาสมณะl ตั้งแต่วันที่เขาได้รับตำแหน่งมหาสมณะต่อจากบิดา